ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2568

การตั้งคำถามภาษาอังกฤษเบื้องต้น Simple Questions

มาต่อจากบทความที่แล้วจ้า

 
11. Is (อิส) - เป็น/คือ/ใช่ไหม

Is this your book? (อิส ธิส ยัวร์ บุค?) - นี่คือหนังสือของคุณใช่ไหม

Is it raining? (อิส อิท เรนนิง?) - ฝนกำลังตกใช่ไหม

Is he your brother? (อิส ฮี ยัวร์ บราเธอร์?) - เขาเป็นพี่ชาย/น้องชายของคุณใช่ไหม

Is she a teacher? (อิส ชี อะ ทีชเชอร์?) - เธอเป็นครูใช่ไหม

Is it cold outside? (อิส อิท โคลด์ เอาท์ไซด์?) - ข้างนอกอากาศหนาวใช่ไหม

Is this the right way? (อิส ธิส เดอะ ไรท์ เวย์?) - นี่คือทางที่ถูกต้องใช่ไหม

Is he coming to the party? (อิส ฮี คัมมิง ทู เดอะ พาร์ที้?) - เขาจะมางานปาร์ตี้ใช่ไหม

Is she happy? (อิส ชี แฮปปี้?) - เธอมีความสุขไหม

Is it open? (อิส อิท โอเพิน?) - มันเปิดอยู่ใช่ไหม

Is this your car? (อิส ธิส ยัวร์ คาร์?) - นี่คือรถของคุณใช่ไหม

Is he busy right now? (อิส ฮี บิซี่ ไรท์ นาว?) - ตอนนี้เขายุ่งอยู่ใช่ไหม

Is she from Japan? (อิส ชี ฟรอม เจแปน?) - เธอมาจากญี่ปุ่นใช่ไหม

Is it far from here? (อิส อิท ฟาร์ ฟรอม เฮียร์?) - มันไกลจากที่นี่ไหม

Is this seat taken? (อิส ธิส ซีท เทคเคิน?) - ที่นั่งนี้มีคนนั่งแล้วใช่ไหม

Is he a doctor? (อิส ฮี อะ ด็อคเตอร์?) - เขาเป็นหมอใช่ไหม

Is she married? (อิส ชี แมร์ริด?) - เธอแต่งงานแล้วใช่ไหม

Is it time to go? (อิส อิท ไทม์ ทู โกว?) - ถึงเวลาไปแล้วใช่ไหม

Is this your phone? (อิส ธิส ยัวร์ โฟน?) - นี่คือโทรศัพท์ของคุณใช่ไหม

Is he tired? (อิส ฮี ไทเออร์ดฺ?) - เขาเหนื่อยไหม

Is she hungry? (อิส ชี ฮังกรี?) - เธอหิวไหม

Is it possible? (อิส อิท พอสซิเบิล?) - มันเป็นไปได้ไหม

Is this the bus to the city center? (อิส ธิส เดอะ บัส ทู เดอะ ซิตี้ เซ็นเตอร์?) - นี่คือรถบัสไปใจกลางเมืองใช่ไหม

Is he interested in sports? (อิส ฮี อินเทอเรสทิด อิน สปอร์ตส์?) - เขาสนใจกีฬาไหม

Is she good at cooking? (อิส ชี กุด แอท คุ๊กกิง?) - เธอทำอาหารเก่งไหม

Is it important? (อิส อิท อิมพอร์แทินทฺ?) - มันสำคัญไหม

Is this the correct address? (อิส ธิส เดอะ คอร์เร็คทฺ แอดเดรส?) - นี่คือที่อยู่ที่ถูกต้องใช่ไหม

Is he happy with his job? (อิส ฮี แฮปปี้ วิธ ฮิส จ็อบ?) - เขามีความสุขกับงานของเขาไหม

Is she ready to order? (อิส ชี เรดดี้ ทู ออร์เดอร์?) - เธอพร้อมสั่งอาหารแล้วใช่ไหม


12. Are (อาร์) - เป็น/คือ/ใช่ไหม (ใช้กับประธานพหูพจน์และ "you")

Are you ready? (อาร์ ยู เรดดี้?) - คุณพร้อมไหม

Are they your friends? (อาร์ เธย์ ยัวร์ เฟรนด์สฺ?) - พวกเขาเป็นเพื่อนของคุณใช่ไหม

Are we late? (อาร์ วี เลท?) - เราสายไหม

Are you tired? (อาร์ ยู ไทเออร์ดฺ?) - คุณเหนื่อยไหม

Are they happy? (อาร์ เธย์ แฮปปี้?) - พวกเขามีความสุขไหม

Are we going the right way? (อาร์ วี โกอิง เดอะ ไรท์ เวย์?) - เรากำลังไปถูกทางใช่ไหม

Are you hungry? (อาร์ ยู ฮังกรี?) - คุณหิวไหม

Are they students? (อาร์ เธย์ สตูเดนทฺสฺ?) - พวกเขาเป็นนักเรียนใช่ไหม

Are we there yet? (อาร์ วี แธร์ เย็ท?) - เราถึงแล้วหรือยัง

Are you busy? (อาร์ ยู บิซี่?) - คุณยุ่งไหม

Are they married? (อาร์ เธย์ แมร์ริด?) - พวกเขาแต่งงานแล้วใช่ไหม

Are we going to be late? (อาร์ วี โกอิง ทู บี เลท?) - เราจะสายไหม

Are you feeling okay? (อาร์ ยู ฟีลลิ่ง โอเค?) - คุณรู้สึกโอเคไหม

Are they excited? (อาร์ เธย์ เอ็กไซทิด?) - พวกเขาตื่นเต้นไหม

Are we going to the park? (อาร์ วี โกอิง ทู เดอะ พาร์ค?) - เราจะไปสวนสาธารณะกันใช่ไหม

Are you interested in sports? (อาร์ ยู อินเทอเรสทิด อิน สปอร์ตส์?) - คุณสนใจกีฬาไหม

Are they from Italy? (อาร์ เธย์ ฟรอม อิตาลี?) - พวกเขามาจากอิตาลีใช่ไหม

Are we meeting at 7? (อาร์ วี มีททิง แอท เซเว่น?) - เราจะเจอกันตอน 7 โมงใช่ไหม

Are you sure? (อาร์ ยู ชัวร์?) - คุณแน่ใจไหม

Are they ready to leave? (อาร์ เธย์ เรดดี้ ทู ลีฟ?) - พวกเขาพร้อมที่จะไปแล้วใช่ไหม

Are we going to eat now? (อาร์ วี โกอิง ทู อีท นาว?) - เราจะทานอาหารกันตอนนี้ใช่ไหม

Are you comfortable? (อาร์ ยู คัมฟอร์ทเทเบิล?) - คุณสบายดีไหม

Are they happy with their new house? (อาร์ เธย์ แฮปปี้ วิธ แธร์ นิว เฮาส์?) - พวกเขามีความสุขกับบ้านใหม่ของพวกเขาไหม

Are we going to watch a movie? (อาร์ วี โกอิง ทู ว็อทชฺ อะ มูฟวี่?) - เราจะไปดูหนังกันใช่ไหม

Are you cold? (อาร์ ยู โคลด์?) - คุณหนาวไหม

Are they going to come? (อาร์ เธย์ โกอิง ทู คัม?) - พวกเขาจะมาไหม

Are we going to the concert? (อาร์ วี โกอิง ทู เดอะ คอนเสิร์ท?) - เราจะไปคอนเสิร์ตกันใช่ไหม

Are you having fun? (อาร์ ยู แฮฟวิ่ง ฟัน?) - คุณสนุกไหม


13. Has (แฮซ) - มี/เคย/แล้วหรือยัง (ใช้กับประธานเอกพจน์ He, She, It)

Has he arrived yet? (แฮซ ฮี อาร์ไรวฺดฺ เย็ท?) - เขามาถึงแล้วหรือยัง

Has she eaten dinner? (แฮซ ชี อีทเทิน ดินเนอร์?) - เธอทานอาหารเย็นแล้วหรือยัง

Has it stopped raining? (แฮซ อิท สต็อปดฺ เรนนิง?) - ฝนหยุดตกแล้วหรือยัง

Has he been to Europe? (แฮซ ฮี บีน ทู ยุโรป?) - เขาเคยไปยุโรปไหม

Has she finished her work? (แฮซ ชี ฟินิชดฺ เฮอร์ เวิร์ค?) - เธอทำงานเสร็จแล้วหรือยัง

Has it gotten colder? (แฮซ อิท ก็อทเทิน โคลเดอร์?) - อากาศหนาวขึ้นแล้วหรือยัง

Has he called you? (แฮซ ฮี คอลด์ ยู?) - เขาโทรหาคุณแล้วหรือยัง

Has she seen that movie? (แฮซ ชี ซีน แธท มูฟวี่?) - เธอเคยดูหนังเรื่องนั้นไหม

Has it been a long time? (แฮซ อิท บีน อะ ลอง ไทม์?) - มันเป็นเวลานานแล้วใช่ไหม

Has he met your parents? (แฮซ ฮี เม็ท ยัวร์ แพเรินทฺสฺ?) - เขาเคยเจอพ่อแม่ของคุณไหม

Has she read this book? (แฮซ ชี เรด ธิส บุค?) - เธอเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ไหม

Has it broken down? (แฮซ อิท โบรคเคิน ดาวน์?) - มันเสียแล้วหรือยัง

Has he found his keys? (แฮซ ฮี ฟาวนด์ ฮิส คีส์?) - เขาหากุญแจของเขาเจอแล้วหรือยัง

Has she learned to drive? (แฮซ ชี เลิร์นดฺ ทู ไดรฟว?) - เธอเรียนขับรถแล้วหรือยัง

Has it started snowing? (แฮซ อิท สตาร์ทิด สโนวอิง?) - หิมะเริ่มตกแล้วหรือยัง

Has he traveled abroad? (แฮซ ฮี แทรเวลด์ อะบรอด?) - เขาเคยเดินทางไปต่างประเทศไหม

Has she made a decision? (แฮซ ชี เมด อะ ดิซิชั่น?) - เธอตัดสินใจแล้วหรือยัง

Has it been fixed? (แฮซ อิท บีน ฟิกซ์ดฺ?) - มันถูกซ่อมแซมแล้วหรือยัง

Has he heard the news? (แฮซ ฮี เฮิร์ด เดอะ นิวส์?) - เขาได้ยินข่าวแล้วหรือยัง

Has she visited that museum? (แฮซ ชี วิสิทิด แธท มิวเซียม?) - เธอเคยไปพิพิธภัณฑ์นั้นไหม

Has it stopped raining yet? (แฮซ อิท สต็อปดฺ เรนนิง เย็ท?) - ฝนหยุดตกแล้วหรือยัง

Has he ever played golf? (แฮซ ฮี เอฟเวอร์ เพลย์ดฺ กอล์ฟ?) - เขาเคยเล่นกอล์ฟไหม

Has she lived here long? (แฮซ ชี ลิฟวฺดฺ เฮียร์ ลอง?) - เธออาศัยอยู่ที่นี่นานแล้วหรือยัง

Has it gotten dark yet? (แฮซ อิท ก็อทเทิน ดาร์ค เย็ท?) - มันมืดแล้วหรือยัง

Has he finished his homework? (แฮซ ฮี ฟินิชดฺ ฮิส โฮมเวิร์ค?) - เขาทำการบ้านเสร็จแล้วหรือยัง

Has she called to confirm? (แฮซ ชี คอลด์ ทู คอนเฟิร์ม?) - เธอโทรมาเพื่อยืนยันแล้วหรือยัง


14. Have (แฮฟว) - มี/เคย/แล้วหรือยัง (ใช้กับประธานพหูพจน์ I, You, We, They)

Have you seen that movie? (แฮฟว ยู ซีน แธท มูฟวี่?) - คุณเคยดูหนังเรื่องนั้นไหม

Have you eaten lunch? (แฮฟว ยู อีทเทิน ลันชฺ?) - คุณทานอาหารกลางวันแล้วหรือยัง

Have you been to Italy? (แฮฟว ยู บีน ทู อิตาลี?) - คุณเคยไปอิตาลีไหม

Have you finished your homework? (แฮฟว ยู ฟินิชดฺ ยัวร์ โฮมเวิร์ค?) - คุณทำการบ้านเสร็จแล้วหรือยัง

Have you met my brother? (แฮฟว ยู เม็ท มาย บราเธอร์?) - คุณเคยเจอพี่ชาย/น้องชายของฉันไหม

Have you lived here long? (แฮฟว ยู ลิฟวฺดฺ เฮียร์ ลอง?) - คุณอาศัยอยู่ที่นี่นานแล้วหรือยัง

Have you heard the news? (แฮฟว ยู เฮิร์ด เดอะ นิวส์?) - คุณได้ยินข่าวแล้วหรือยัง

Have you traveled abroad? (แฮฟว ยู แทรเวลด์ อะบรอด?) - คุณเคยเดินทางไปต่างประเทศไหม

Have you made a reservation? (แฮฟว ยู เมด อะ เรเซอร์เวชั่น?) - คุณจองแล้วหรือยัง

Have you had any problems? (แฮฟว ยู แฮด เอนี พร็อบเบิลมฺสฺ?) - คุณมีปัญหาอะไรบ้างไหม

Have you seen my keys? (แฮฟว ยู ซีน มาย คีส์?) - คุณเห็นกุญแจของฉันไหม

Have you tried this restaurant? (แฮฟว ยู ทรายด์ ธิส เรสเทอรองทฺ?) - คุณเคยลองร้านอาหารนี้ไหม

Have you been waiting long? (แฮฟว ยู บีน เวททิง ลอง?) - คุณรอนานแล้วหรือยัง

Have you decided what to do? (แฮฟว ยู ดิไซด์ดฺ ว็อท ทู ดู?) - คุณตัดสินใจแล้วว่าจะทำอะไร

Have you ever played a musical instrument? (แฮฟว ยู เอฟเวอร์ เพลย์ดฺ อะ มิวสิคัล อินสตรูเมินทฺ?) - คุณเคยเล่นเครื่องดนตรีไหม

Have you finished reading that book? (แฮฟว ยู ฟินิชดฺ รีดดิง แธท บุค?) - คุณอ่านหนังสือเล่มนั้นจบแล้วหรือยัง

Have you called the doctor? (แฮฟว ยู คอลด์ เดอะ ด็อคเตอร์?) - คุณโทรหาหมอแล้วหรือยัง

Have you had a good day? (แฮฟว ยู แฮด อะ กุด เดย์?) - วันนี้คุณเป็นวันที่ดีไหม

Have you seen the new exhibition? (แฮฟว ยู ซีน เดอะ นิว เอ็กซิบิชั่น?) - คุณเคยเห็นนิทรรศการใหม่ไหม

Have you started learning a new language? (แฮฟว ยู สตาร์ทิด เลิร์นนิง อะ นิว แลงกวิจ?) - คุณเริ่มเรียนภาษาใหม่แล้วหรือยัง

Have you been to that concert? (แฮฟว ยู บีน ทู แธท คอนเสิร์ท?) - คุณเคยไปคอนเสิร์ตนั้นไหม

Have you finished packing? (แฮฟว ยู ฟินิชดฺ แพ็คกิง?) - คุณเก็บของเสร็จแล้วหรือยัง

Have you paid the rent? (แฮฟว ยู เพด เดอะ เรนทฺ?) - คุณจ่ายค่าเช่าแล้วหรือยัง

Have you had any news? (แฮฟว ยู แฮด เอนี นิวส์?) - คุณมีข่าวอะไรบ้างไหม

Have you seen the latest episode? (แฮฟว ยู ซีน เดอะ เลทเทสต์ เอพพิโซด?) - คุณเคยดูตอนล่าสุดไหม

Have you started your new job? (แฮฟว ยู สตาร์ทิด ยัวร์ นิว จ็อบ?) - คุณเริ่มงานใหม่แล้วหรือยัง

Have you been to that part of town? (แฮฟว ยู บีน ทู แธท พาร์ท ออฟ ทาวน์?) - คุณเคยไปแถวนั้นของเมืองไหม

Have you finished cleaning? (แฮฟว ยู ฟินิชดฺ คลีนนิง?) - คุณทำความสะอาดเสร็จแล้วหรือยัง

Have you made any plans for the weekend? (แฮฟว ยู เมด เอนี แพลนส์ ฟอร์ เดอะ วีคเอนด์?) - คุณมีแผนอะไรสำหรับสุดสัปดาห์ไหม



การตั้งคำถามภาษาอังกฤษเบื้องต้น Simple Questions

 ต่อจ้า

7. Who (ฮู) - ใคร

Who are you? (ฮู อาร์ ยู?) - คุณคือใคร

Who is that man? (ฮู อิส แธท แมน?) - ผู้ชายคนนั้นคือใคร

Who told you that? (ฮู โทลดฺ ยู แธท?) - ใครบอกคุณเรื่องนั้น

Who is your teacher? (ฮู อิส ยัวร์ ทีชเชอร์?) - ครูของคุณคือใคร

Who is coming to the party? (ฮู อิส คัมมิง ทู เดอะ พาร์ที้?) - ใครจะมางานปาร์ตี้

Who is calling me? (ฮู อิส คอลลิ่ง มี?) - ใครโทรหาฉัน

Who knows the answer? (ฮู โนวส์ ดิ แอนเซอร์?) - ใครรู้คำตอบ

Who is in charge here? (ฮู อิส อิน ชาร์จ เฮียร์?) - ใครเป็นผู้รับผิดชอบที่นี่

Who are your parents? (ฮู อาร์ ยัวร์ แพเรินทฺสฺ?) - พ่อแม่ของคุณคือใคร

Who do you live with? (ฮู ดู ยู ลิฟวฺ วิธ?) - คุณอาศัยอยู่กับใคร

Who is your best friend? (ฮู อิส ยัวร์ เบสท์ เฟรนด์?) - เพื่อนสนิทของคุณคือใคร

Who wrote this book? (ฮู โรท ธิส บุค?) - ใครเป็นคนเขียนหนังสือเล่มนี้

Who is the president of the United States? (ฮู อิส เดอะ เพรซิเดนทฺ ออฟ ดิ ยูไนทิด สเตทส์?) - ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคือใคร

Who is going to pick you up? (ฮู อิส โกอิง ทู พิค ยู อัพ?) - ใครจะไปรับคุณ

Who is that woman over there? (ฮู อิส แธท วูเมิน โอเวอร์ แธร์?) - ผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ตรงนั้นคือใคร

Who is the director of this movie? (ฮู อิส เดอะ ไดเรคเตอร์ ออฟ ธิส มูฟวี่?) - ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือใคร

Who is responsible for this mess? (ฮู อิส รีสปอนซิเบิล ฟอร์ ธิส เมส?) - ใครเป็นผู้รับผิดชอบความยุ่งเหยิงนี้

Who is your favorite singer? (ฮู อิส ยัวร์ เฟเวอริท ซิงเกอร์?) - นักร้องที่คุณชื่นชอบคือใคร

Who is coming to dinner tonight? (ฮู อิส คัมมิง ทู ดินเนอร์ ทูไนท์?) - ใครจะมาทานอาหารเย็นคืนนี้

Who is the inventor of the telephone? (ฮู อิส ดิ อินเวนเตอร์ ออฟ เดอะ เทเลโฟน?) - ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์คือใคร

Who is knocking at the door? (ฮู อิส น็อคกิง แอท เดอะ ดอร์?) - ใครกำลังเคาะประตู

Who is going to pay for this? (ฮู อิส โกอิง ทู เพย์ ฟอร์ ธิส?) - ใครจะเป็นคนจ่ายสิ่งนี้

Who is your favorite actor? (ฮู อิส ยัวร์ เฟเวอริท แอคเตอร์?) - นักแสดงที่คุณชื่นชอบคือใคร

Who is in the kitchen? (ฮู อิส อิน เดอะ คิทเช่น?) - ใครอยู่ในครัว

Who is going to help me? (ฮู อิส โกอิง ทู เฮลพฺ มี?) - ใครจะช่วยฉัน

Who is your role model? (ฮู อิส ยัวร์ โรล โมเดล?) - แบบอย่างของคุณคือใคร

Who is singing that song? (ฮู อิส ซิงอิง แธท ซอง?) - ใครกำลังร้องเพลงนั้น

Who is going to drive? (ฮู อิส โกอิง ทู ไดรฟว?) - ใครจะเป็นคนขับรถ


8. Whose (ฮูส) - ของใคร

Whose book is this? (ฮูส บุค อิส ธิส?) - หนังสือเล่มนี้ของใคร

Whose car is that? (ฮูส คาร์ อิส แธท?) - รถคันนั้นของใคร

Whose idea was that? (ฮูส ไอเดีย วอส แธท?) - นั่นเป็นความคิดของใคร

Whose phone is ringing? (ฮูส โฟน อิส ริงกิง?) - โทรศัพท์ของใครกำลังดัง

Whose bag is on the floor? (ฮูส แบ็ก อิส ออน เดอะ ฟลอร์?) - กระเป๋าของใครอยู่ที่พื้น

Whose dog is barking? (ฮูส ด็อก อิส บาร์กกิง?) - สุนัขของใครกำลังเห่า

Whose turn is it? (ฮูส เทิร์น อิส อิท?) - ตาของใคร

Whose shoes are these? (ฮูส ชูส อาร์ ธีส?) - รองเท้าเหล่านี้ของใคร

Whose house is that? (ฮูส เฮาส์ อิส แธท?) - บ้านหลังนั้นของใคร

Whose team won? (ฮูส ทีม ว็อน?) - ทีมของใครชนะ

Whose pen did you borrow? (ฮูส เพ็น ดิด ยู บอร์โรว?) - คุณยืมปากกาของใคร

Whose keys are on the table? (ฮูส คีส์ อาร์ ออน เดอะ เทเบิล?) - กุญแจของใครอยู่บนโต๊ะ

Whose umbrella is this? (ฮูส อัมเบรลละ อิส ธิส?) - ร่มคันนี้ของใคร

Whose children are playing in the park? (ฮูส ชิลเดริน อาร์ เพลย์อิง อิน เดอะ พาร์ค?) - ลูกๆ ของใครกำลังเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ

Whose bicycle is parked outside? (ฮูส ไบซิเคิล อิส พาร์คดฺ เอาท์ไซด์?) - จักรยานของใครจอดอยู่ข้างนอก

Whose homework is this? (ฮูส โฮมเวิร์ค อิส ธิส?) - นี่คือการบ้านของใคร

Whose car are we taking? (ฮูส คาร์ อาร์ วี เทคกิง?) - เราจะเอารถของใครไป

Whose idea was it to go camping? (ฮูส ไอเดีย วอส อิท ทู โกว แคมปิง?) - ใครเป็นคนเสนอความคิดที่จะไปตั้งแคมป์

Whose phone number did you get? (ฮูส โฟน นัมเบอร์ ดิด ยู เก็ท?) - คุณได้เบอร์โทรศัพท์ของใครมา

Whose cat is that? (ฮูส แคท อิส แธท?) - แมวตัวนั้นของใคร

Whose wallet did you find? (ฮูส วอลเล็ท ดิด ยู ไฟนด์?) - คุณเจอกระเป๋าสตางค์ของใคร

Whose project won the competition? (ฮูส โพรเจ็คทฺ ว็อน เดอะ คอมพิทิชั่น?) - โครงงานของใครชนะการแข่งขัน

Whose glasses are you wearing? (ฮูส กลาสเซส อาร์ ยู แวริ่ง?) - คุณกำลังใส่แว่นตาของใคร

Whose turn is it to cook? (ฮูส เทิร์น อิส อิท ทู คุ๊ก?) - ตาของใครที่จะต้องทำอาหาร

Whose painting is hanging on the wall? (ฮูส เพ้นทิง อิส แฮงอิง ออน เดอะ วอล?) - รูปวาดของใครแขวนอยู่บนผนัง

Whose luggage is this? (ฮูส ลักเกจ อิส ธิส?) - นี่คือกระเป๋าเดินทางของใคร

Whose advice did you follow? (ฮูส แอดไวซ์ ดิด ยู ฟอลโลว?) - คุณทำตามคำแนะนำของใคร


9. Can (แคน) - สามารถ/ได้ไหม

Can you swim? (แคน ยู สวิม?) - คุณว่ายน้ำได้ไหม

Can you help me? (แคน ยู เฮลพฺ มี?) - คุณช่วยฉันได้ไหม

Can I borrow your pen? (แคน ไอ บอร์โรว ยัวร์ เพ็น?) - ฉันขอยืมปากกาของคุณได้ไหม

Can you speak English? (แคน ยู สปีค อิงลิช?) - คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม

Can we go now? (แคน วี โกว นาว?) - เราไปตอนนี้ได้ไหม

Can you drive a car? (แคน ยู ไดรฟว อะ คาร์?) - คุณขับรถได้ไหม

Can I sit here? (แคน ไอ ซิท เฮียร์?) - ฉันนั่งตรงนี้ได้ไหม

Can you play the guitar? (แคน ยู เพลย์ เดอะ กิทาร์?) - คุณเล่นกีตาร์ได้ไหม

Can we eat now? (แคน วี อีท นาว?) - เราทานอาหารตอนนี้ได้ไหม

Can you understand me? (แคน ยู อันเดอร์สแตนด์ มี?) - คุณเข้าใจฉันไหม

Can I use your phone? (แคน ไอ ยูส ยัวร์ โฟน?) - ฉันใช้โทรศัพท์ของคุณได้ไหม

Can you cook? (แคน ยู คุ๊ก?) - คุณทำอาหารได้ไหม

Can we talk later? (แคน วี ทอล์ค เลเทอร์?) - เราคุยกันทีหลังได้ไหม

Can you see the mountains from here? (แคน ยู ซี เดอะ เมาน์เทินส์ ฟรอม เฮียร์?) - จากตรงนี้คุณเห็นภูเขาไหม

Can I have some water? (แคน ไอ แฮฟวฺ ซัม วอเทอร์?) - ฉันขอน้ำหน่อยได้ไหม

Can you open the window? (แคน ยู โอเพิน เดอะ วินโดว?) - คุณเปิดหน้าต่างได้ไหม

Can we go to the beach? (แคน วี โกว ทู เดอะ บีช?) - เราไปชายหาดกันได้ไหม

Can you fix this? (แคน ยู ฟิกซ์ ธิส?) - คุณซ่อมสิ่งนี้ได้ไหม

Can I leave early? (แคน ไอ ลีฟ เออร์ลี?) - ฉันออกก่อนเวลาได้ไหม

Can you hear me clearly? (แคน ยู เฮียร์ มี เคลียร์ลี?) - คุณได้ยินฉันชัดเจนไหม

Can I take a picture? (แคน ไอ เทค อะ พิคเจอร์?) - ฉันถ่ายรูปได้ไหม

Can you explain that again? (แคน ยู เอ็กซ์เพลน แธท อะเกน?) - คุณอธิบายสิ่งนั้นอีกครั้งได้ไหม

Can we meet tomorrow? (แคน วี มีท ทูมอร์โรว์?) - เราเจอกันพรุ่งนี้ได้ไหม

Can you lend me some money? (แคน ยู เลนด์ มี ซัม มันนี่?) - คุณให้ฉันยืมเงินหน่อยได้ไหม

Can I try it on? (แคน ไอ ทราย อิท ออน?) - ฉันลองสวมได้ไหม

Can you turn on the light? (แคน ยู เทิร์น ออน เดอะ ไลท์?) - คุณเปิดไฟได้ไหม


10. Do (ดู) - ทำ/ไหม

Do you like coffee? (ดู ยู ไลค์ คอฟฟี่?) - คุณชอบกาแฟไหม

Do you live in Bangkok? (ดู ยู ลิฟวฺ อิน แบงค็อก?) - คุณอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ไหม

Do you have any pets? (ดู ยู แฮฟวฺ เอนี เพ็ทสฺ?) - คุณมีสัตว์เลี้ยงไหม

Do you work here? (ดู ยู เวิร์ค เฮียร์?) - คุณทำงานที่นี่ไหม

Do you understand? (ดู ยู อันเดอร์สแตนด์?) - คุณเข้าใจไหม

Do you need help? (ดู ยู นีด เฮลพฺ?) - คุณต้องการความช่วยเหลือไหม

Do you want to go out? (ดู ยู ว้อนทฺ ทู โกว เอาท์?) - คุณอยากออกไปข้างนอกไหม

Do you speak Spanish? (ดู ยู สปีค สแปนิช?) - คุณพูดภาษาสเปนได้ไหม

Do you know him? (ดู ยู โนว ฮิม?) - คุณรู้จักเขาไหม

Do you like to read? (ดู ยู ไลค์ ทู รีด?) - คุณชอบอ่านหนังสือไหม

Do you have any questions? (ดู ยู แฮฟวฺ เอนี เควสชั่นส์?) - คุณมีคำถามอะไรไหม

Do you play any sports? (ดู ยู เพลย์ เอนี สปอร์ตส์?) - คุณเล่นกีฬาอะไรไหม

Do you watch TV often? (ดู ยู ว็อทชฺ ทีวี ออฟเทิน?) - คุณดูทีวีบ่อยไหม

Do you eat meat? (ดู ยู อีท มีท?) - คุณทานเนื้อสัตว์ไหม

Do you like spicy food? (ดู ยู ไลค์ สไปซี่ ฟูด?) - คุณชอบอาหารรสเผ็ดไหม

Do you have a car? (ดู ยู แฮฟวฺ อะ คาร์?) - คุณมีรถไหม

Do you go to the gym? (ดู ยู โกว ทู เดอะ จิม?) - คุณไปยิมไหม

Do you like to travel? (ดู ยู ไลค์ ทู แทรเวล?) - คุณชอบเดินทางไหม

Do you have any brothers or sisters? (ดู ยู แฮฟวฺ เอนี บราเธอร์ส ออร์ ซิสเตอร์ส?) - คุณมีพี่ชายหรือน้องชาย หรือพี่สาวหรือน้องสาวไหม

Do you work on weekends? (ดู ยู เวิร์ค ออน วีคเอนด์ส?) - คุณทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์ไหม

Do you enjoy cooking? (ดู ยู เอนจอย คุ๊กกิง?) - คุณสนุกกับการทำอาหารไหม

Do you listen to music? (ดู ยู ลิสเซิน ทู มิวสิค?) - คุณฟังเพลงไหม

Do you need anything from the store? (ดู ยู นีด เอนีธิง ฟรอม เดอะ สตอร์?) - คุณต้องการอะไรจากร้านค้าไหม

Do you like animals? (ดู ยู ไลค์ แอนิมัลสฺ?) - คุณชอบสัตว์ไหม

Do you have any plans for tonight? (ดู ยู แฮฟวฺ เอนี แพลนส์ ฟอร์ ทูไนท์?) - คุณมีแผนอะไรสำหรับคืนนี้ไหม

Do you often go to the movies? (ดู ยู ออฟเทิน โกว ทู เดอะ มูฟวี่ส์?) - คุณไปดูหนังบ่อยไหม


เอาไว้ไปต่อกันบทความหน้านะจ๊ะ อย่าลืมมาติดตามอ่านกันน๊า

การตั้งคำถามภาษาอังกฤษเบื้องต้น Simple Questions

 มาต่อจากคราวที่แล้วการถามประโยคง่าย ๆ 

4. Why (วาย) - ทำไม

Why are you sad? (วาย อาร์ ยู แซด?) - ทำไมคุณถึงเศร้า

Why are you late? (วาย อาร์ ยู เลท?) - ทำไมคุณถึงสาย

Why did you do that? (วาย ดิด ยู ดู แธท?) - ทำไมคุณถึงทำแบบนั้น

Why is it so hot? (วาย อิส อิท โซ ฮอท?) - ทำไมมันถึงร้อนจัง

Why don't you like it? (วาย ด้อนทฺ ยู ไลค์ อิท?) - ทำไมคุณถึงไม่ชอบมัน

Why is the sky blue? (วาย อิส เดอะ สกาย บลู?) - ทำไมท้องฟ้าถึงเป็นสีฟ้า

Why are they laughing? (วาย อาร์ เธย์ ลาฟฟิง?) - ทำไมพวกเขาถึงหัวเราะ

Why is this so difficult? (วาย อิส ธิส โซ ดิฟฟิคัลทฺ?) - ทำไมสิ่งนี้ถึงยากจัง

Why did you choose this? (วาย ดิด ยู ชูส ธิส?) - ทำไมคุณถึงเลือกสิ่งนี้

Why can't I open this? (วาย แคนทฺ ไอ โอเพิน ธิส?) - ทำไมฉันถึงเปิดสิ่งนี้ไม่ได้

Why are you so quiet? (วาย อาร์ ยู โซ ไควเอ็ท?) - ทำไมคุณถึงเงียบจัง

Why did you change your mind? (วาย ดิด ยู เชนจ์ ยัวร์ มายนด์?) - ทำไมคุณถึงเปลี่ยนใจ

Why is the restaurant closed? (วาย อิส เดอะ เรสเทอรองทฺ โคลสดฺ?) - ทำไมร้านอาหารถึงปิด

Why are you wearing a coat? (วาย อาร์ ยู แวริ่ง อะ โค้ท?) - ทำไมคุณถึงใส่เสื้อโค้ท

Why don't we go to the park? (วาย ด้อนทฺ วี โกว ทู เดอะ พาร์ค?) - ทำไมเราไม่ไปสวนสาธารณะกัน

Why is everyone in a hurry? (วาย อิส เอวรีวัน อิน อะ เฮอร์รี?) - ทำไมทุกคนถึงรีบร้อน

Why did you call me so late? (วาย ดิด ยู คอลล์ มี โซ เลท?) - ทำไมคุณถึงโทรหาฉันดึกขนาดนี้

Why is the music so loud? (วาย อิส เดอะ มิวสิค โซ ลาวด์?) - ทำไมเพลงถึงดังขนาดนี้

Why did you miss the train? (วาย ดิด ยู มิส เดอะ เทรน?) - ทำไมคุณถึงพลาดรถไฟ

Why can't you come to the party? (วาย แคนทฺ ยู คัม ทู เดอะ พาร์ที้?) - ทำไมคุณถึงมางานปาร์ตี้ไม่ได้

Why are you smiling? (วาย อาร์ ยู สไมลิ่ง?) - ทำไมคุณถึงยิ้ม

Why did you say that? (วาย ดิด ยู เซย์ แธท?) - ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น

Why is the coffee cold? (วาย อิส เดอะ คอฟฟี่ โคลด์?) - ทำไมกาแฟถึงเย็น

Why are you feeling tired? (วาย อาร์ ยู ฟีลลิ่ง ไทเออร์ดฺ?) - ทำไมคุณถึงรู้สึกเหนื่อย

Why don't you want to go? (วาย ด้อนทฺ ยู ว้อนทฺ ทู โกว?) - ทำไมคุณถึงไม่อยากไป

Why is the internet not working? (วาย อิส ดิ อินเทอร์เน็ต น็อท เวิร์คกิง?) - ทำไมอินเทอร์เน็ตถึงไม่ทำงาน

Why did you leave early? (วาย ดิด ยู ลีฟ เออร์ลี?) - ทำไมคุณถึงออกจากก่อนเวลา

Why can't we go outside? (วาย แคนทฺ วี โกว เอาท์ไซด์?) - ทำไมเราถึงออกไปข้างนอกไม่ได้

Why are you asking so many questions? (วาย อาร์ ยู อาสกิง โซ เมนี เควสชั่นส์?) - ทำไมคุณถึงถามคำถามเยอะจัง


5. How (ฮาว) - อย่างไร

How are you? (ฮาว อาร์ ยู?) - คุณสบายดีไหม

How old are you? (ฮาว โอลด์ อาร์ ยู?) - คุณอายุเท่าไหร่

How do you spell that? (ฮาว ดู ยู สเปลล์ แธท?) - คุณสะกดคำนั้นอย่างไร

How much is this? (ฮาว มัช อิส ธิส?) - อันนี้ราคาเท่าไหร่

How do you go to work? (ฮาว ดู ยู โกว ทู เวิร์ค?) - คุณไปทำงานอย่างไร

How was your day? (ฮาว วอส ยัวร์ เดย์?) - วันของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

How can I help you? (ฮาว แคน ไอ เฮลพฺ ยู?) - ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร

How long does it take? (ฮาว ลอง ดาส อิท เทค?) - ใช้เวลานานเท่าไหร่

How do you feel? (ฮาว ดู ยู ฟีล?) - คุณรู้สึกอย่างไร

How often do you exercise? (ฮาว ออฟเทิน ดู ยู เอ็กเซอไซซฺ?) - คุณออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน

How tall are you? (ฮาว ทอล อาร์ ยู?) - คุณสูงเท่าไหร่

How many siblings do you have? (ฮาว เมนี ซิบลิงส์ ดู ยู แฮฟว?) - คุณมีพี่น้องกี่คน

How do you make this cake? (ฮาว ดู ยู เมค ธิส เค้ก?) - คุณทำเค้กนี้อย่างไร

How far is it from here? (ฮาว ฟาร์ อิส อิท ฟรอม เฮียร์?) - จากที่นี่ไปไกลแค่ไหน

How do you know him/her? (ฮาว ดู ยู โนว ฮิม/เฮอร์?) - คุณรู้จักเขา/เธอได้อย่างไร

How was the movie? (ฮาว วอส เดอะ มูฟวี่?) - หนังเป็นอย่างไรบ้าง

How can I get to the airport? (ฮาว แคน ไอ เก็ท ทู ดิ แอร์พอร์ต?) - ฉันจะไปสนามบินได้อย่างไร

How long have you lived here? (ฮาว ลอง แฮฟว ยู ลิฟวฺ เฮียร์?) - คุณอาศัยอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว

How do you like your coffee? (ฮาว ดู ยู ไลค์ ยัวร์ คอฟฟี่?) - คุณชอบกาแฟแบบไหน

How often do you go shopping? (ฮาว ออฟเทิน ดู ยู โกว ช้อปปิง?) - คุณไปซื้อของบ่อยแค่ไหน

How deep is the ocean? (ฮาว ดีพ อิส ดิ โอเชิน?) - มหาสมุทรลึกแค่ไหน

How much does it cost? (ฮาว มัช ดาส อิท คอสท์?) - ราคาเท่าไหร่

How do you fix this problem? (ฮาว ดู ยู ฟิกซ์ ธิส พร็อบเบิลมฺ?) - คุณแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

How long do we have to wait? (ฮาว ลอง ดู วี แฮฟวฺ ทู เวท?) - เราต้องรอนานเท่าไหร่


6. Which (วิช) - อันไหน

Which color do you like? (วิช คัลเลอร์ ดู ยู ไลค์?) - คุณชอบสีไหน

Which way should we go? (วิช เวย์ ชูด วี โกว?) - เราควรไปทางไหน

Which book are you reading? (วิช บุค อาร์ ยู รีดดิง?) - คุณกำลังอ่านหนังสือเล่มไหน

Which is better, A or B? (วิช อิส เบทเทอร์, เอ ออร์ บี?) - อันไหนดีกว่ากัน, เอ หรือ บี

Which one do you want? (วิช วัน ดู ยู ว้อนทฺ?) - คุณต้องการอันไหน

Which movie did you see? (วิช มูฟวี่ ดิด ยู ซี?) - คุณดูหนังเรื่องไหน

Which is your favorite food? (วิช อิส ยัวร์ เฟเวอริท ฟูด?) - อาหารที่คุณชอบที่สุดคืออะไร

Which train goes to Bangkok? (วิช เทรน โกวส์ ทู แบงค็อก?) - รถไฟขบวนไหนไปกรุงเทพฯ

Which day is the meeting? (วิช เดย์ อิส เดอะ มีททิง?) - การประชุมคือวันไหน

Which language do you want to learn? (วิช แลงกวิจ ดู ยู ว้อนทฺ ทู เลิร์น?) - คุณต้องการเรียนภาษาอะไร

Which shirt do you prefer, the blue one or the red one? (วิช เชิร์ท ดู ยู พรีเฟอร์, เดอะ บลู วัน ออร์ เดอะ เรด วัน?) - คุณชอบเสื้อตัวไหนมากกว่ากัน, สีฟ้าหรือสีแดง

Which is the tallest building in the world? (วิช อิส เดอะ ทอลเลสท์ บิลดิง อิน เดอะ เวิร์ลดฺ?) - ตึกที่สูงที่สุดในโลกคือตึกไหน

Which subject do you find most interesting? (วิช ซับเจ็คทฺ ดู ยู ไฟนด์ โมสท์ อินเทอเรสทิง?) - คุณพบว่าวิชาไหนน่าสนใจที่สุด

Which country would you like to visit? (วิช คันทรี วูด ยู ไลค์ ทู วิสิท?) - คุณอยากไปเที่ยวประเทศไหน

Which is the best way to learn English? (วิช อิส เดอะ เบสท์ เวย์ ทู เลิร์น อิงลิช?) - วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนภาษาอังกฤษคือวิธีไหน

Which car do you drive? (วิช คาร์ ดู ยู ไดรฟว?) - คุณขับรถยี่ห้ออะไร

Which season do you like the most? (วิช ซีซั่น ดู ยู ไลค์ เดอะ โมสท์?) - คุณชอบฤดูไหนมากที่สุด

Which restaurant should we go to? (วิช เรสเทอรองทฺ ชูด วี โกว ทู?) - เราควรไปร้านอาหารไหน

Which is the fastest way to get downtown? (วิช อิส เดอะ ฟาสเทสต์ เวย์ ทู เก็ท ดาวน์ทาวน์?) - วิธีที่เร็วที่สุดในการเข้าเมืองคือวิธีไหน



การตั้งคำถามภาษาอังกฤษเบื้องต้น Simple Questions

 บทความนี้เราจะเรียนรู้การตั้งคำถามง่ายด้วย 

1. What (ว็อท) - อะไร

What is your name? (ว็อท อิส ยัวร์ เนม?) - คุณชื่ออะไร

What time is it? (ว็อท ไทม์ อิส อิท?) - กี่โมงแล้ว

What are you doing? (ว็อท อาร์ ยู ดูอิง?) - คุณกำลังทำอะไร

What did you say? (ว็อท ดิด ยู เซย์?) - คุณพูดว่าอะไรนะ

What do you like? (ว็อท ดู ยู ไลค์?) - คุณชอบอะไร

What is that? (ว็อท อิส แธท?) - นั่นคืออะไร

What happened? (ว็อท แฮพเพินดฺ?) - เกิดอะไรขึ้น

What's the problem? (ว็อทส์ เดอะ พร็อบเบิลมฺ?) - มีปัญหาอะไร

What do you want? (ว็อท ดู ยู ว้อนทฺ?) - คุณต้องการอะไร

What are your hobbies? (ว็อท อาร์ ยัวร์ ฮ็อบบีส์?) - งานอดิเรกของคุณคืออะไร

What is your favorite color? (ว็อท อิส ยัวร์ เฟเวอริท คัลเลอร์?) - สีที่คุณชอบที่สุดคือสีอะไร

What are you thinking about? (ว็อท อาร์ ยู ธิงคิง อะเบาต์?) - คุณกำลังคิดถึงอะไร

What did you eat for breakfast? (ว็อท ดิด ยู อีท ฟอร์ เบรคฟาสท์?) - คุณทานอะไรเป็นอาหารเช้า

What kind of music do you listen to? (ว็อท ไคนด์ ออฟ มิวสิค ดู ยู ลิสเซิน ทู?) - คุณฟังเพลงแนวไหน

What are you going to do tomorrow? (ว็อท อาร์ ยู โกอิง ทู ดู ทูมอร์โรว์?) - พรุ่งนี้คุณจะทำอะไร

What is the capital of Thailand? (ว็อท อิส เดอะ แคปปิทัล ออฟ ไทยแลนด์?) - เมืองหลวงของประเทศไทยคืออะไร

What movie are you watching? (ว็อท มูฟวี่ อาร์ ยู ว็อทชิง?) - คุณกำลังดูหนังเรื่องอะไร

What's your phone number? (ว็อทส์ ยัวร์ โฟน นัมเบอร์?) - เบอร์โทรศัพท์ของคุณคืออะไร

What time does the store open? (ว็อท ไทม์ ดาส เดอะ สตอร์ โอเพิน?) - ร้านเปิดกี่โมง

What is your job? (ว็อท อิส ยัวร์ จ็อบ?) - คุณทำงานอะไร

What is the weather like today? (ว็อท อิส เดอะ เวธเธอร์ ไลค์ ทูเดย์?) - วันนี้อากาศเป็นอย่างไรบ้าง

What is the meaning of this word? (ว็อท อิส เดอะ มีนนิง ออฟ ธิส เวิร์ด?) - คำนี้หมายความว่าอะไร

What subjects are you studying? (ว็อท ซับเจ็คทฺสฺ อาร์ ยู สตั๊ดดิง?) - คุณกำลังเรียนวิชาอะไรบ้าง

What is your favorite animal? (ว็อท อิส ยัวร์ เฟเวอริท แอนิมัล?) - สัตว์ที่คุณชอบที่สุดคืออะไร

What are you wearing? (ว็อท อาร์ ยู แวริ่ง?) - คุณกำลังใส่อะไร

What is the date today? (ว็อท อิส เดอะ เดท ทูเดย์?) - วันนี้วันที่เท่าไหร่

What is your address? (ว็อท อิส ยัวร์ แอดเดรส?) - ที่อยู่ของคุณคืออะไร

What is your opinion on this? (ว็อท อิส ยัวร์ อะพินเนียน ออน ธิส?) - คุณมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้


2. Where (แวร์) - ที่ไหน

Where are you from? (แวร์ อาร์ ยู ฟรอม?) - คุณมาจากไหน

Where do you live? (แวร์ ดู ยู ลิฟว?) - คุณอาศัยอยู่ที่ไหน

Where is the bathroom? (แวร์ อิส เดอะ บาธรูม?) - ห้องน้ำอยู่ที่ไหน

Where did you go? (แวร์ ดิด ยู โกว?) - คุณไปไหนมา

Where is the school? (แวร์ อิส เดอะ สคูล?) - โรงเรียนอยู่ที่ไหน

Where are my keys? (แวร์ อาร์ มาย คีส์?) - กุญแจของฉันอยู่ที่ไหน

Where can I buy tickets? (แวร์ แคน ไอ บาย ทิคเค็ทสฺ?) - ฉันสามารถซื้อตั๋วได้ที่ไหน

Where is the nearest supermarket? (แวร์ อิส เดอะ เนียเรสต์ ซูเปอร์มาร์เก็ต?) - ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน

Where were you yesterday? (แวร์ เวอร์ ยู เยสเทอร์เดย์?) - เมื่อวานคุณอยู่ที่ไหน

Where should we meet? (แวร์ ชูด วี มีท?) - เราควรจะเจอกันที่ไหน

Where is the post office? (แวร์ อิส เดอะ โพสท์ ออฟฟิส?) - ที่ทำการไปรษณีย์อยู่ที่ไหน

Where did you park your car? (แวร์ ดิด ยู พาร์ค ยัวร์ คาร์?) - คุณจอดรถไว้ที่ไหน

Where are my glasses? (แวร์ อาร์ มาย กลาสเซส?) - แว่นตาของฉันอยู่ที่ไหน

Where can I find a good restaurant? (แวร์ แคน ไอ ไฟนด์ อะ กูด เรสเทอรองทฺ?) - ฉันสามารถหาร้านอาหารดีๆ ได้ที่ไหน

Where is the nearest train station? (แวร์ อิส เดอะ เนียเรสต์ เทรน สเตชั่น?) - สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน

Where do you usually go on vacation? (แวร์ ดู ยู ยูชวลลี โกว ออน เวเคชั่น?) - ปกติคุณไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหน

Where were you born? (แวร์ เวอร์ ยู บอร์น?) - คุณเกิดที่ไหน

Where can I get some coffee? (แวร์ แคน ไอ เก็ท ซัม คอฟฟี่?) - ฉันสามารถหาซื้อกาแฟได้ที่ไหน

Where is the museum? (แวร์ อิส เดอะ มิวเซียม?) - พิพิธภัณฑ์อยู่ที่ไหน

Where did you learn English? (แวร์ ดิด ยู เลิร์น อิงลิช?) - คุณเรียนภาษาอังกฤษที่ไหน

Where are the restrooms? (แวร์ อาร์ เดอะ เรสท์รูมส์?) - ห้องสุขาอยู่ที่ไหน

Where can I rent a bike? (แวร์ แคน ไอ เรนท์ อะ ไบค์?) - ฉันสามารถเช่าจักรยานได้ที่ไหน

Where is the exit? (แวร์ อิส ดิ เอ็กซิท?) - ทางออกอยู่ที่ไหน

Where did you buy that shirt? (แวร์ ดิด ยู บาย แธท เชิร์ท?) - คุณซื้อเสื้อตัวนั้นมาจากไหน

Where are you going? (แวร์ อาร์ ยู โกอิง?) - คุณกำลังจะไปไหน

Where can I find a pharmacy? (แวร์ แคน ไอ ไฟนด์ อะ ฟาร์มาซี?) - ฉันสามารถหาร้านขายยาได้ที่ไหน

Where is the library? (แวร์ อิส เดอะ ไลบรารี่?) - ห้องสมุดอยู่ที่ไหน

Where did you spend your childhood? (แวร์ ดิด ยู สเปนด์ ยัวร์ ไชลด์ฮูด?) - คุณใช้ชีวิตในวัยเด็กที่ไหน

Where are the mountains? (แวร์ อาร์ เดอะ เมาน์เทินส์?) - ภูเขาอยู่ที่ไหน


3. When (เว็น) - เมื่อไหร่

When is your birthday? (เว็น อิส ยัวร์ เบิร์ธเดย์?) - วันเกิดของคุณเมื่อไหร่

When do you wake up? (เว็น ดู ยู เวค อัพ?) - คุณตื่นนอนเมื่อไหร่

When did you arrive? (เว็น ดิด ยู อาร์ไรวฺ?) - คุณมาถึงเมื่อไหร่

When will you finish? (เว็น วิล ยู ฟินิช?) - คุณจะเสร็จเมื่อไหร่

When is the meeting? (เว็น อิส เดอะ มีททิง?) - การประชุมเมื่อไหร่

When can we go? (เว็น แคน วี โกว?) - เราจะไปได้เมื่อไหร่

When did this happen? (เว็น ดิด ธิส แฮพเพิน?) - สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่

When are you free? (เว็น อาร์ ยู ฟรี?) - คุณว่างเมื่อไหร่

When should I call you? (เว็น ชูด ไอ คอลล์ ยู?) - ฉันควรโทรหาคุณเมื่อไหร่

When is the next train? (เว็น อิส เดอะ เน็กซฺทฺ เทรน?) - รถไฟขบวนต่อไปมาเมื่อไหร่

When does the movie start? (เว็น ดาส เดอะ มูฟวี่ สตาร์ท?) - หนังเริ่มฉายเมื่อไหร่

When will you be back? (เว็น วิล ยู บี แบ็ค?) - คุณจะกลับมาเมื่อไหร่

When did you start learning English? (เว็น ดิด ยู สตาร์ท เลิร์นนิง อิงลิช?) - คุณเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเมื่อไหร่

When is the deadline? (เว็น อิส เดอะ เดดไลน์?) - กำหนดส่งคือเมื่อไหร่

When can I see you again? (เว็น แคน ไอ ซี ยู อะเกน?) - ฉันจะเจอคุณอีกครั้งได้เมื่อไหร่

When did you graduate? (เว็น ดิด ยู แกรจูเอท?) - คุณจบการศึกษาเมื่อไหร่

When will the package arrive? (เว็น วิล เดอะ แพ็คเกจ อาร์ไรวฺ?) - พัสดุจะมาถึงเมื่อไหร่

When are we going to eat dinner? (เว็น อาร์ วี โกอิง ทู อีท ดินเนอร์?) - เราจะทานอาหารเย็นกันเมื่อไหร่

When is the concert? (เว็น อิส เดอะ คอนเสิร์ท?) - คอนเสิร์ตมีเมื่อไหร่

When did you buy your house? (เว็น ดิด ยู บาย ยัวร์ เฮาส์?) - คุณซื้อบ้านเมื่อไหร่

When will the rain stop? (เว็น วิล เดอะ เรน สต็อป?) - ฝนจะหยุดตกเมื่อไหร่

When are you going on vacation? (เว็น อาร์ ยู โกอิง ออน เวเคชั่น?) - คุณจะไปเที่ยวพักผ่อนเมื่อไหร่

When is the exam? (เว็น อิส ดิ เอ็กแซม?) - สอบเมื่อไหร่


บทความนี้เอาไป 3 คำก่อนนะเดี๋ยวไปต่อกันอีกบทความหน้า พยายามจะหาประโยคตัวอย่างมาให้ได้ฝึกกันเยอะ ๆ จะได้เก่ง ๆ กัน

วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

✅ประโยคเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน (Daily Routine)

 

📌 ประโยคเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน (Daily Routine)

  1. I wake up at 6 AM every day. ไอ เวค อัพ แอท ซิกซ เอเอม เอะฟริเด  (ฉันตื่นนอนตอน 6 โมงเช้าทุกวัน)
  2. I usually have coffee in the morning. ไอ ยูสชัวหลิ แฮพ คอฟฟิ อิน เดอะ มอนิ่ง (ฉันมักจะดื่มกาแฟตอนเช้า)
  3. I go to work by bus. ไอ โก ทู เวิร์ค บาย บัส (ฉันไปทำงานโดยรถบัส)
  4. I like exercising in the evening. ไอ ไลค เอ๊กเซอะไซซิ่ง อิน เดอะ อิฟนิ่ง  (ฉันชอบออกกำลังกายตอนเย็น)
  5. I usually go to bed at 10 PM. ไอ ยูสชัวหลิ โก ทู เบ้ด แอท เท็น พีเอ็ม  (ฉันมักจะเข้านอนตอน 4 ทุ่ม)
  6. On weekends, I love spending time with my family. ออน วึคเอ็นส, ไอ เลิฟ สเป็นดิ่ง ไทม วิธ มาย แฟมิหลิ (ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันชอบใช้เวลากับครอบครัว)
  7. I enjoy going to the gym after work. ไอ เอ็นจอย โกอิ่ง ทู เดอะ จิม อาฟเถอะ เวิร์ค (ฉันชอบไปยิมหลังเลิกงาน)
  8. I cook dinner for my family every night. ไอ คุก ดินเนอ ฟอ มาย แฟมิหลิ เอะฟริ ไน๊ท (ฉันทำอาหารเย็นให้ครอบครัวทุกคืน)
  9. I always check my phone before going to sleep. ไอ ออลเวยฺฺ์ส เข็ค มาย โฟน บีฟอ โกอิ่ง ทู สลีพ (ฉันมักจะเช็กโทรศัพท์ก่อนนอนเสมอ)
  10. I take a walk in the park every morning.ไอ เทค อะ วอลฺค อิน เดอะ ปาร์ค เอะฟริ มอนิ่ง (ฉันเดินเล่นในสวนสาธารณะทุกเช้า)



📌 ประโยคเกี่ยวกับการตื่นนอน (Waking Up)

  1. I wake up at 6 a.m. every day. ไอ ยูชัวะหลิ แฮฟ เบรกฟัสต์ แอท เซเว่น เอ เอ็ม
    (ฉันตื่นนอนตอนหกโมงเช้าทุกวัน)

  2. I usually snooze my alarm a few times before getting up. ไอ ยูสชัวหลิ สนูซ มาย อะลาม อะ ฟิว ไทม์ส บีฟอ เก็ตติ่ง อัพ
    (ฉันมักจะกดเลื่อนนาฬิกาปลุกหลายครั้งก่อนจะลุกขึ้น)

  3. I get out of bed and stretch my body.ไอ เก็ต เอ้า ออฟ เบ้ด แอนด สเตร้ช มาย บอดี้
    (ฉันลุกออกจากเตียงและยืดร่างกาย)

  4. The first thing I do is check my phone. 
    เดอะ เฟิร์ส ติง ไอ ดู อีส เช็ค มาย โฟน 
    (สิ่งแรกที่ฉันทำคือเช็คโทรศัพท์)

  5. I drink a glass of water after waking up.
    ไอ ดริ้ง อะ กลาส ออฟ วอเถอะ อาฟเถอะ เวคกิ่ง อัพ
     
    (ฉันดื่มน้ำหนึ่งแก้วหลังจากตื่นนอน)

  6. I make my bed as soon as I get up.ไอ เมค มาย เบ้ด แอส ซูน แอส ไอ เก้ต อัพ
    (ฉันจัดเตียงทันทีที่ลุกขึ้น)

  7. I open the window to let fresh air in.ไอ โอเพ่น เดอะ วินโดว์ ทู เล็ท เฟรช แอร์ อิน
    (ฉันเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศสดชื่นเข้ามา)

  8. Sometimes, I go back to sleep if I feel too tired.ซัมไทม์ส, ไอ โก แบ็ค ทู สลีพ อีฟ ไอ ฟีล ทู ไทรเยิด
    (บางครั้งฉันก็นอนต่อถ้ารู้สึกเหนื่อยเกินไป)

  9. I start my day with a positive mindset.ไอ สตาร์ท มาย เด วิธ อะ โพสสิถีฟ มายเซ็ต
    (ฉันเริ่มต้นวันด้วยความคิดเชิงบวก)

  10. I try to wake up early, but it's not always easy. ไอ  ถราย  ทู เวค อัพ เออหริ, บัท อิทส นอท ออลเวย์ส อิซี
    (ฉันพยายามตื่นเช้า แต่มันก็ไม่ง่ายเสมอไป)



📌 ประโยคเกี่ยวกับการอาบน้ำและแต่งตัว (Showering & Dressing Up)

  1. I take a shower right after waking up.  
    (ฉันอาบน้ำทันทีหลังจากตื่นนอน)
  2. I brush my teeth twice a day.
    (ฉันแปรงฟันวันละสองครั้ง)
  3. I wash my face to feel refreshed.
    (ฉันล้างหน้าเพื่อให้รู้สึกสดชื่น)
  4. I choose my outfit for the day.
    (ฉันเลือกชุดสำหรับวันนั้น)
  5. I usually wear comfortable clothes at home.
    (ฉันมักจะใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ที่บ้าน)
  6. I put on some makeup before going out.
    (ฉันแต่งหน้าเล็กน้อยก่อนออกไปข้างนอก)
  7. I style my hair before heading to work.
    (ฉันจัดทรงผมก่อนออกไปทำงาน)
  8. I sometimes take a long shower when I have time.
    (บางครั้งฉันก็อาบน้ำนานเมื่อมีเวลา)
  9. I apply sunscreen to protect my skin.
    (ฉันทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว)
  10. I always check myself in the mirror before leaving.
    (ฉันมักจะเช็คตัวเองในกระจกก่อนออกไปข้างนอกเสมอ)



📌 ประโยคเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร (Eating & Drinking)

  1. I usually have breakfast at 7 a.m. ไอ ยูชัวลลี่ แฮฟ เบรกฟัสต์ แอท เซเว่น เอ เอ็ม
    (ฉันมักจะกินอาหารเช้าตอนเจ็ดโมงเช้า)
  2. I drink coffee every morning to wake up.ไอ ดริ๊งค์ คอฟฟี่ เอฟวรี่ มอร์นิ่ง ทู เวค อัพ
    (ฉันดื่มกาแฟทุกเช้าเพื่อปลุกตัวเอง)
  3. I prefer tea over coffee.ไอ พรีเฟอร์ ที โอเวอร์ คอฟฟี่
    (ฉันชอบชามากกว่ากาแฟ)
  4. I eat a healthy breakfast to start my day.ไอ อีท อะ เฮลตี้ เบรกฟัสต์ ทู สตาร์ท มาย เดย์
    (ฉันกินอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพเพื่อเริ่มต้นวัน)
  5. Sometimes, I skip breakfast when I’m in a hurry.ซัมไทมส์, ไอ สกิป เบรกฟัสต์ เว็น ไอม์ อิน อะ เฮอะหริ
    (บางครั้งฉันก็ข้ามอาหารเช้าเมื่อรีบ)
  6. I prepare my own lunch if I have time.ไอ พรีแพร์ มาย โอว์น ลันช์ อิฟ ไอ แฮฟ ไทม์
    (ฉันเตรียมอาหารกลางวันเองถ้ามีเวลา)
  7. I usually eat out with my colleagues.ไอ ยูชัวลลี่ อีท เอาท์ วิธ มาย คอลลีกส์
    (ฉันมักจะไปกินข้าวนอกบ้านกับเพื่อนร่วมงาน)
  8. I drink a lot of water throughout the day.ไอ ดริ๊งค์ อะ ลอท ออฟ วอเทอร์ ธรูเอาท์ เดอะ เดย์
    (ฉันดื่มน้ำเยอะตลอดทั้งวัน)
  9. I enjoy cooking dinner for my family.ไอ เอนจอย คุกกิ้ง ดินเนอร์ ฟอร์ มาย แฟมิหลิ
    (ฉันสนุกกับการทำอาหารเย็นให้ครอบครัว)
  10. Before bed, I like to have a cup of warm milk. บีฟอร์ เบด, ไอ ไลค์ ทู แฮฟ อะ คัพ ออฟ วอร์ม มิลค์
    (ก่อนนอน ฉันชอบดื่มนมอุ่นหนึ่งแก้ว)



📌 ประโยคเกี่ยวกับการทำงานและเรียน (Work & Study)

  1. I go to work at 9 a.m. every weekday.ไอ โก ทู เวิร์ค แอท ไนน์ เอ เอ็ม เอฟวรี่ วีคเดย์
    (ฉันไปทำงานตอน 9 โมงเช้าทุกวันธรรมดา)

  2. I take the bus to work every morning.ไอ เทค เดอะ บัส ทู เวิร์ค เอฟวรี่ มอร์นิ่ง
    (ฉันขึ้นรถบัสไปทำงานทุกเช้า)

  3. I have a lot of meetings during the day.ไอ แฮฟ อะ ล็อต ออฟ มีทติ้งส์ ดูริ่ง เดอะ เดย์
    (ฉันมีประชุมเยอะตลอดทั้งวัน)

  4. I work from home twice a week.ไอ เวิร์ค ฟรอม โฮม ทไวซ์ อะ วีค
    (ฉันทำงานจากที่บ้านสัปดาห์ละสองครั้ง)

  5. I take a lunch break at noon.ไอ เทค อะ ลันช์ เบรค แอท นูน
    (ฉันพักกลางวันตอนเที่ยง)

  6. I try to finish all my tasks before leaving the office.ไอ ถราย ทู ฟินิช ออล มาย ทาสค์ส บีฟอร์ ลีฟวิง ดิ ออฟฟิซ
    (ฉันพยายามทำงานทั้งหมดให้เสร็จก่อนออกจากออฟฟิศ)

  7. I study English every evening.ไอ สตัดดิ อิงลิช เอะฟริ อีฟนิง
    (ฉันเรียนภาษาอังกฤษทุกเย็น)

  8. I take online courses to improve my skills.ไอ เทค ออนไลน์ คอร์สเซส ทู อิมพรูฟ มาย สกิลส์
    (ฉันเรียนคอร์สออนไลน์เพื่อพัฒนาทักษะ)

  9. I enjoy working with my colleagues.ไอ เอนจอย เวิร์คกิ้ง วิธ มาย คอลลีกส์
    (ฉันสนุกกับการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน)

  10. I review my lessons before going to bed.ไอ รีวิว มาย เลสสันส์ บีฟอร์ โกอิ้ง ทู เบด
    (ฉันทบทวนบทเรียนก่อนเข้านอน)

📌 ประโยคเกี่ยวกับเวลาว่างและกิจกรรมอื่น ๆ (Free Time & Other Activities)

  1. I like to read books in my free time.ไอ ไลค์ ทู รีด บุ๊คส์ อิน มาย ฟรี ไทม์
    (ฉันชอบอ่านหนังสือเวลาว่าง)

  2. I go to the gym three times a week.ไอ โก ทู เดอะ ยิม ธรี ไทมส์ อะ วีค
    (ฉันไปยิมสามครั้งต่อสัปดาห์)

  3. I take my dog for a walk every evening.ไอ เทค มาย ด็อก ฟอร์ อะ วอล์ค เอฟวรี่ อีฟวินิ่ง
    (ฉันพาสุนัขไปเดินเล่นทุกเย็น)

  4. I watch my favorite TV series after dinner.ไอ ว็อทช์ มาย เฟเวอริต ทีวี ซีรีส์ อาฟเตอร์ ดินเนอร์
    (ฉันดูซีรีส์ที่ชอบหลังอาหารเย็น)

  5. I enjoy playing video games on weekends.ไอ เอนจอย เพลยิ่ง วิดีโอ เกมส์ ออน วีคเอนดส์
    (ฉันสนุกกับการเล่นวิดีโอเกมในวันหยุดสุดสัปดาห์)

  6. I practice playing the guitar when I have time.ไอ แพรคติส เพลยิ่ง เดอะ กีตาร์ เว็น ไอ แฮฟ ไทม์
    (ฉันฝึกเล่นกีตาร์เมื่อมีเวลา)

  7. I meditate for 10 minutes before bed. ไอ เมดิเทท ฟอร์ เทน มินิทส์ บีฟอร์ เบด
    (ฉันนั่งสมาธิ 10 นาทีก่อนนอน)

  8. I call my parents every night.ไอ คอลล์ มาย พาเรนท์ส เอฟวรี่ ไนท์
    (ฉันโทรหาพ่อแม่ทุกคืน)

  9. I write in my journal before sleeping.ไอ ไรท์ อิน มาย เจอร์นัล บีฟอร์ สลีปปิ่ง
    (ฉันเขียนไดอารี่ก่อนนอน)

  10. I plan my schedule for the next day before sleeping.ไอ แพลน มาย สเค็ดดูล ฟอร์ เดอะ เน็กซ์ เดย์ บีฟอร์ สลีปปิ่ง
    (ฉันวางแผนตารางเวลาสำหรับวันถัดไปก่อนนอน)

📌 ประโยคเกี่ยวกับการเข้านอน (Going to Bed)

  1. I go to bed around 10 p.m.ไอ โก ทู เบด อะราวด์ เทน พี เอ็ม
    (ฉันเข้านอนประมาณสี่ทุ่ม)

  2. I turn off my phone before sleeping.ไอ เทิร์น ออฟ มาย โฟน บีฟอร์ สลีปปิ่ง
    (ฉันปิดโทรศัพท์ก่อนนอน)

  3. I feel exhausted after a long day.ไอ ฟีล เอ็กซอสเต็ด อาฟเตอร์ อะ ลอง เดย์
    (ฉันรู้สึกเหนื่อยหลังจากวันอันยาวนาน)

  4. I listen to soft music to help me sleep.ไอ ลิซซึ่น ทู ซอฟท์ มิวสิค ทู เฮลป์ มี สลีป
    (ฉันฟังเพลงเบา ๆ เพื่อช่วยให้หลับ)

  5. I turn off the lights and close my eyes.ไอ เทิร์น ออฟ เดอะ ไลท์ส แอนด์ โคลส มาย อายส์
    (ฉันปิดไฟและหลับตา)

  6. I reflect on my day before sleeping.ไอ รีเฟลคท์ ออน มาย เดย์ บีฟอร์ สลีปปิ่ง
    (ฉันทบทวนวันของตัวเองก่อนนอน)

  7. I sleep for about 7 hours every night.ไอ สลีป ฟอร์ อะเบาท์ เซเว่น อาวร์ส เอฟวรี่ ไนท์
    (ฉันนอนประมาณ 7 ชั่วโมงทุกคืน)

  8. I say goodnight to my family before sleeping.ไอ เซย์ กู๊ดไนท์ ทู มาย แฟมิลี่ บีฟอร์ สลีปปิ่ง
    (ฉันบอกฝันดีกับครอบครัวก่อนนอน)

  9. I fall asleep quickly when I’m really tired.ไอ ฟอลล์ อะสลีป ควิกคลี่ เว็น ไอม์ รีลลี่ ไทร์เยิด
    (ฉันหลับเร็วเมื่อฉันเหนื่อยมาก)

  10. I hope to have sweet dreams tonight.ไอ โฮป ทู แฮฟ สวีท ดรีมส์ ทูไนท์
    (ฉันหวังว่าจะฝันดีคืนนี้)

📌 ประโยคเกี่ยวกับความฝันและเป้าหมาย (Dreams & Goals)

 

📌 ประโยคเกี่ยวกับความฝันและเป้าหมาย (Dreams & Goals)

  1. I want to learn English fluently.ไอ ว้อนท์ ทู เลิร์น อิงลิช ฟลูเอ็นท์หลิ (ฉันอยากเรียนภาษาอังกฤษให้คล่อง)

  2. My dream job is to be a pilot.มาย ดรีม จ็อบ อีส ทู บี อะ ไพลอท (งานในฝันของฉันคือเป็นนักบิน)

  3. I hope to visit Japan one day. ไอ โฮป ทู วิซิท เจแปน วัน เดย์(ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น)

  4. I plan to start my own business in the future.ไอ แพลน ทู สตาร์ท มาย โอว์น บิซเนส อิน เดอะ ฟิวเจอร์ (ฉันวางแผนจะเริ่มธุรกิจของตัวเองในอนาคต)

  5. I want to buy a house near the beach.ไอ ว้อนท์ ทู บาย อะ เฮาส์ เนียร์ เดอะ บีช (ฉันอยากซื้อบ้านใกล้ทะเล)

  6. I’m working hard to achieve my dreams. ไอม์ เวิร์คกิ้ง ฮาร์ด ทู อะชีฟ มาย ดรีมส์(ฉันกำลังทำงานหนักเพื่อให้บรรลุความฝันของฉัน)

  7. I hope to get a scholarship to study abroad. ไอ โฮป ทู เก็ท อะ สกอลาร์ชิพ ทู สตัดดี้ อะบรอด(ฉันหวังว่าจะได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ)

  8. I want to improve my communication skills. ไอ ว้อนท์ ทู อิมพรูฟ มาย คอมมิวนิเคชั่น สกิลส์(ฉันอยากพัฒนาทักษะการสื่อสารของฉัน)

  9. One day, I will travel to Europe. วัน เดย์, ไอ วิล แทรเวล ทู ยุโรป(สักวันหนึ่ง ฉันจะไปเที่ยวยุโรป)

  10. I believe in myself and my abilities.ไอ บีลีฟ อิน มายเซลฟ์ แอนด์ มาย อะบิลลิตีส์ (ฉันเชื่อมั่นในตัวเองและความสามารถของฉัน)



📌 ประโยคเกี่ยวกับความฝันในอนาคต (Future Dreams)

  1. My dream is to become a successful entrepreneur. มาย ดรีม อีส ทู บีคัม อะ ซัคเซสฟูล อองเทรอเพรอเนอร  (ความฝันของฉันคือการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ)
  2. I want to travel around the world one day. ไอ ว้อนท์ ทู แทรเวล อะราวด์ เดอะ เวิลด์ วัน เดย์ (ฉันอยากเดินทางรอบโลกสักวันหนึ่ง)

  3. I dream of owning a cozy café in the future.ไอ ดรีม ออฟ โอนิง อะ โคซี่ คาเฟ่ อิน เดอะ ฟิวเจอร์  (ฉันฝันอยากเป็นเจ้าของคาเฟ่เล็ก ๆ ในอนาคต)

  4. One of my biggest dreams is to buy a house by the beach. วัน ออฟ มาย บิกเกสท์ ดรีมส์ อีส ทู บาย อะ เฮาส์ บาย เดอะ บีช (หนึ่งในความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือการซื้อบ้านริมชายหาด)

  5. I hope to become fluent in English and another foreign language. ไอ โฮป ทู บีคัม ฟลูเอ็นท์ อิน อิงลิช แอนด์ อะนัธเธอร์ ฟอเรน แลงกวิจ (ฉันหวังว่าจะพูดภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่นได้อย่างคล่องแคล่ว)

  6. I want to make a positive impact on the world. ไอ ว้อนท์ ทู เมค อะ พอสซิทีฟ อิมแพคท์ ออน เดอะ เวิลด์ (ฉันอยากสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก)

  7. It’s my dream to write and publish a book.อิทส์ มาย ดรีม ทู ไรท์ แอนด์ พับบลิช อะ บุ๊ค (ความฝันของฉันคือการเขียนและตีพิมพ์หนังสือ)

  8. I wish to open my own fashion brand someday.ไอ วิช ทู โอเพน มาย โอว์น แฟชั่น แบรนด์ ซัมเดย์ (ฉันหวังว่าจะเปิดแบรนด์แฟชั่นของตัวเองในสักวันหนึ่ง)

  9. My goal is to help people in need through charity work.มาย โกล อีส ทู เฮลป์ พีเพิล อิน นีด ธรู ชาริตี้ เวิร์ค (เป้าหมายของฉันคือการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการผ่านงานการกุศล)

  10. I dream of building a happy family and raising kids.ไอ ดรีม ออฟ บิวดิ้ง อะ แฮปปี้ แฟมิลี่ แอนด์ เรซซิ่ง คิดส์ (ฉันฝันถึงการสร้างครอบครัวที่มีความสุขและเลี้ยงลูก)




📌 ประโยคเกี่ยวกับเป้าหมายการศึกษา (Education Goals)

  1. I want to get a scholarship to study abroad. ไอ ว้อนท์ ทู เก็ท อะ สกอลาร์ชิพ ทู สตัดดิ อะบรอด (ฉันอยากได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ)
  2. My goal is to graduate with honors. มาย โกล อีส ทู แกรดจุเอท วิธ ออนเนอร์ส  (เป้าหมายของฉันคือการจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยม)
  3. I hope to complete my Master’s degree in the next two years.ไอ โฮป ทู คอมพลีท มาย มาสเตอร์ส ดีกรี อิน เดอะ เน็กซ์ ทู เยียร์ส (ฉันหวังว่าจะเรียนจบปริญญาโทภายในสองปีข้างหน้า)
  4. I am working hard to get into my dream university.ไอ แอม เวิร์คกิ้ง ฮาร์ด ทู เก็ท อินทู มาย ดรีม ยูนิเวอร์ซิตี้ (ฉันกำลังทำงานหนักเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในฝันของฉัน)
  5. I want to improve my public speaking skills.ไอ ว้อนท์ ทู อิมพรูฟ มาย พับบลิค สปีคกิ้ง สกิลส์ (ฉันอยากพัฒนาทักษะการพูดในที่สาธารณะ)
  6. I plan to take online courses to develop my skills.ไอ แพลน ทู เทค ออนไลน์ คอร์สเซส ทู ดิเวลลอป มาย สกิลส์ (ฉันวางแผนที่จะเรียนคอร์สออนไลน์เพื่อพัฒนาทักษะของฉัน)
  7. I hope to attend a leadership training program.ไอ โฮป ทู แอทเทนด์ อะ ลีดเดอร์ชิพ เทรนนิง โปรแกรม (ฉันหวังว่าจะเข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมภาวะผู้นำ)
  8. One of my goals is to read 50 books this year.วัน ออฟ มาย โกลส์ อีส ทู รีด ฟิฟถิ บุ๊คส์ ดิส เยียร์ (หนึ่งในเป้าหมายของฉันคือการอ่านหนังสือ 50 เล่มในปีนี้)
  9. I dream of studying in the UK or the USA.ไอ ดรีม ออฟ สตัดดิอิง อิน เดอะ ยูเค ออร์ เดอะ ยูเอสเอ (ฉันฝันที่จะได้เรียนต่อในสหราชอาณาจักรหรือสหรัฐอเมริกา)
  10. I want to gain as much knowledge as possible.ไอ ว้อนท์ ทู เกน แอส มัช นอเลจ แอส พอสซิเบิล (ฉันอยากได้รับความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้)



📌 ประโยคเกี่ยวกับเป้าหมายด้านอาชีพ (Career Goals)

  1. My dream job is to be a professional photographer.มาย ดรีม จอบ อีส ทู บี อะ โปรเฟสชันนอล โฟโทกราเฟอร์ (งานในฝันของฉันคือการเป็นช่างภาพมืออาชีพ)

  2. I hope to get promoted to a managerial position.ไอ โฮป ทู เก็ท โปรโมทเต็ด ทู อะ แมนเนเจเรียล โพซิชัน  (ฉันหวังว่าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ)

  3. I want to start my own business before turning 30.ไอ ว้อนท์ ทู สตาร์ท มาย โอว์น บิซเนส บีฟอร์ เทิร์นนิง เทอร์ตี้ (ฉันอยากเริ่มธุรกิจของตัวเองก่อนอายุ 30)

  4. My goal is to work for an international company. มาย โกล อีส ทู เวิร์ค ฟอร์ แอน อินเทอร์เนชันนอล คัมพานี (เป้าหมายของฉันคือการทำงานในบริษัทข้ามชาติ)

  5. I wish to gain more experience in my field.ไอ วิช ทู เกน มอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ อิน มาย ฟีลด์ (ฉันหวังว่าจะได้รับประสบการณ์มากขึ้นในสายงานของฉัน)

  6. I am working towards becoming a software developer.ไอ แอม เวิร์คกิ้ง ทูเวิร์ดส์ บีคัมมิ่ง อะ ซอฟต์แวร์ ดีเวลลอปเปอร์ (ฉันกำลังพยายามเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์)

  7. I want to build a strong professional network. ไอ ว้อนท์ ทู บิลด์ อะ สตรอง โปรเฟสชันนอล เน็ตเวิร์ค (ฉันอยากสร้างเครือข่ายทางอาชีพที่แข็งแกร่ง)

  8. I dream of becoming a CEO one day.ไอ ดรีม ออฟ บีคัมมิ่ง อะ ซีอีโอ วัน เดย์ (ฉันฝันอยากเป็น CEO สักวันหนึ่ง)

  9. I aim to create innovative products for the market.ไอ เอม ทู ครีเอท อินโนเวทีฟ โปรดักส์ ฟอร์ เดอะ มาร์เก็ต (ฉันตั้งเป้าหมายที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่สู่ตลาด)

  10. I want to be recognized as an expert in my industry.ไอ ว้อนท์ ทู บี เรคคอกไนซ์ด์ แอส แอน เอ็กซ์เพิร์ท อิน มาย อินดัสทรี (ฉันอยากเป็นที่ยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของฉัน)

📌 ประโยคเกี่ยวกับเป้าหมายด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ (Health & Lifestyle Goals)

  1. I want to live a healthy and active lifestyle.ไอ ว้อนท์ ทู ลีฟ อะ เฮลธี แอนด์ แอคทีฟ ไลฟ์สไตล์ (ฉันอยากมีไลฟ์สไตล์ที่มีสุขภาพดีและกระฉับกระเฉง)

  2. My goal is to exercise at least four times a week. มาย โกล อีส ทู เอ็กเซอร์ไซส์ แอท ลีสต์ โฟร์ ไทม์ส อะ วีค (เป้าหมายของฉันคือการออกกำลังกายอย่างน้อยสี่ครั้งต่อสัปดาห์)

  3. I hope to run a marathon someday.ไอ โฮป ทู รัน อะ มาราธอน ซัมเดย์ (ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้วิ่งมาราธอน)

  4. I want to improve my mental health by meditating.ไอ ว้อนท์ ทู อิมพรูฟ มาย เมนทัล เฮลธ์ บาย เมดิเทททิง  (ฉันอยากพัฒนาสุขภาพจิตของฉันโดยการนั่งสมาธิ)

  5. I dream of climbing Mount Everest.ไอ ดรีม ออฟ ไคลม์มิ่ง เมาท์ เอเวอเรสต์  (ฉันฝันถึงการปีนยอดเขาเอเวอเรสต์)

  6. My goal is to maintain a balanced diet.มาย โกล อีส ทู เมนเทน อะ บาลานซ์ด ไดเอ็ท (เป้าหมายของฉันคือการรักษาอาหารให้สมดุล)

  7. I plan to quit unhealthy habits this year.ไอ แพลน ทู ควิท อันเฮลธี่ แฮบิทส์ ดิส เยียร์ (ฉันวางแผนจะเลิกนิสัยที่ไม่ดีต่อสุขภาพในปีนี้)

  8. I want to spend more quality time with my family.ไอ ว้อนท์ ทู สเปนด์ มอร์ ควอลลิตี้ ไทม์ วิธ มาย แฟมิลี่ (ฉันอยากใช้เวลาดี ๆ กับครอบครัวมากขึ้น)

  9. I hope to reduce my screen time and read more books.ไอ โฮป ทู รีดิวซ์ มาย สกรีน ไทม์ แอนด์ รีด มอร์ บุ๊คส์ (ฉันหวังว่าจะลดเวลาหน้าจอและอ่านหนังสือให้มากขึ้น)

  10. I aim to sleep at least 7 hours every night.ไอ เอม ทู สลีป แอท ลีสต์ เซเว่น อาวร์ส เอฟวรี่ ไนท์ (ฉันตั้งเป้าหมายว่าจะนอนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงทุกคืน)

📌 ประโยคเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่น (Inspiration & Determination)

  1. I believe that hard work pays off.ไอ บีลีฟ แดท ฮาร์ด เวิร์ค เพย์ส ออฟฟ์ (ฉันเชื่อว่าความพยายามจะให้ผลตอบแทนเสมอ)

  2. I won’t give up until I achieve my dream.ไอ โวนท์ กิฟ อัพ อันทิล ไอ อะชีฟ มาย ดรีม (ฉันจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะทำความฝันสำเร็จ)

  3. Every day, I take small steps toward my goals.เอฟวรี่ เดย์, ไอ เทค สมอลล์ สเตปส์ ทูเวิร์ด มาย โกลส์ (ทุกวันฉันก้าวไปทีละนิดเพื่อไปสู่เป้าหมาย)

  4. Success comes from dedication and persistence.ซัคเซส คัมส์ ฟรอม เดดิเคชั่น แอนด์ เพอร์ซิสแทนซ์ (ความสำเร็จมาจากความทุ่มเทและความมุ่งมั่น)

  5. I am constantly learning and growing.ไอ แอม คอนสแตนท์ลี่ เลิร์นนิง แอนด์ โกรว์วิง (ฉันเรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ)

  6. I embrace challenges as opportunities to grow.ไอ เอมเบรซ แชลเลนจ์ส แอส ออปพอร์ทูนิตีส์ ทู โกรว์ (ฉันมองความท้าทายเป็นโอกาสในการเติบโต)

  7. I am determined to make my dreams come true.ไอ แอม ดีเทอร์มินด์ ทู เมค มาย ดรีมส์ คัม ทรู (ฉันตั้งใจที่จะทำให้ความฝันของฉันเป็นจริง)

  8. Failure is just another step toward success.เฟลเยอร์ อีส จัสต์ อะนัทเธอร์ สเตป ทูเวิร์ด ซัคเซส (ความล้มเหลวเป็นเพียงอีกก้าวหนึ่งสู่ความสำเร็จ)

  9. I trust the process and keep moving forward.ไอ ทรัสต์ เดอะ โพรเซส แอนด์ คีพ มูฟวิ่ง ฟอร์เวิร์ด (ฉันเชื่อมั่นในกระบวนการและก้าวต่อไป)

  10. I am creating the future I desire.ไอ แอม ครีเอทติ้ง เดอะ ฟิวเจอร์ ไอ ดีไซร์ (ฉันกำลังสร้างอนาคตที่ฉันต้องการ)






💡 เคล็ดลับการฝึกพูด

  • ลอง พูดประโยคเหล่านี้ออกเสียง ทุกวัน
  • ฝึก แนะนำตัวเองหน้ากระจก หรือ อัดเสียงตัวเองฟัง
  • ใช้ประโยคเหล่านี้เวลา เจอเพื่อนใหม่หรือสัมภาษณ์งาน

💡ประโยคแนะนำตัวเอง (Basic Self-Introduction)

 

📌 ประโยคทักทายและแนะนำตัว

  1. Hello! How are you? ไฮ! มาย เนม อีส แอนนา. ว็อทส์ ยัวร์ เนม? (สวัสดี! คุณเป็นอย่างไรบ้าง?)

  2. Hi! My name is Anna. What's your name? ไฮ! มาย เนม อีส แอนนา. ว็อทส์ ยัวร์ เนม? (สวัสดี! ฉันชื่อแอนนา คุณชื่ออะไร?)

  3. Nice to meet you! ไนซ์ ทู มีท ยู! (ยินดีที่ได้รู้จัก!)

  4. Where are you from? แวร์ อาร์ ยู ฟรอม? (คุณมาจากที่ไหน?)

  5. I'm from Thailand. And you? ไอม์ ฟรอม ไทยแลนด์. แอนด์ ยู? (ฉันมาจากประเทศไทย แล้วคุณล่ะ?) 



📌 ประโยคแนะนำตัวเอง (Basic Self-Introduction)

  1. My name is Anna. มาย เนม อีส แอนนา  (ฉันชื่อแอนนา)

  2. I’m 25 years old. ไอม์ ทเวนตี้ไฟว์ เยียร์ส โอลด์ (ฉันอายุ 25 ปี)

  3. I’m from Thailand. ไอม์ ฟรอม ไทยแลนด์ (ฉันมาจากประเทศไทย)

  4. I live in Bangkok. ไอ ลิฟ อิน แบงคอก (ฉันอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ)

  5. I work as a teacher. ไอ เวิร์ค แอส อะ ทีชเชอร์ (ฉันทำงานเป็นครู)

  6. I am a student at Chulalongkorn University. ไอ แอม อะ สตู้เดนท์ แอท จุฬาลงกรณ์ ยูนิเวอร์ซิตี้ (ฉันเป็นนักศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

  7. I speak Thai and a little English. ไอ สปีค ไทย แอนด์ อะ ลิตเทิล อิงลิช (ฉันพูดภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย)

  8. I love learning new languages. ไอ ลัฟ เลิร์นนิ่ง นิว แลงกวิจส์ (ฉันชอบเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ)

  9. I have one brother and one sister. ไอ แฮฟ วัน บราเธอร์ แอนด์ วัน ซิสเตอร์ (ฉันมีพี่ชายหนึ่งคนและน้องสาวหนึ่งคน)

  10. I live with my family. ไอ ลิฟ วิธ มาย แฟมิลี่ (ฉันอาศัยอยู่กับครอบครัว)

  11. My full name is Anna Smith. มาย ฟูล เนม อีส แอนนา สมิธ (ชื่อเต็มของฉันคือ แอนนา สมิธ)

  12. I was born in Chiang Mai. ไอ วอส บอร์น อิน เชียงใหม่ (ฉันเกิดที่เชียงใหม่)

  13. I grew up in Bangkok. ไอ กรู อัพ อิน แบงคอก (ฉันเติบโตในกรุงเทพฯ)

  14. I am 28 years old. ไอ แอม ทเวนตี้เอท เยียร์ส โอลด์ (ฉันอายุ 28 ปี)

  15. I celebrate my birthday on July 15th. ไอ เซเลเบรท มาย เบิร์ธเดย์ ออน จูไล ฟิฟทีนธ์ (ฉันฉลองวันเกิดของฉันในวันที่ 15 กรกฎาคม)

  16. I am the eldest child in my family. ไอ แอม ดิ เอลเดสท์ ชายลด์ อิน มาย แฟมิลี่  (ฉันเป็นลูกคนโตของครอบครัว)

  17. I have two younger brothers. ไอ แฮฟ ทู ยังเกอร์ บราเธอร์ส (ฉันมีน้องชายสองคน)

  18. I am single/married. ไอ แอม ซิงเกิ้ล/แมร์ริด (ฉันโสด/แต่งงานแล้ว)

  19. I have a pet dog named Max. ไอ แฮฟ อะ เพ็ท ด็อก เนมด์ แม็กซ์ (ฉันมีสุนัขชื่อแม็กซ์)

  20. I am currently living in an apartment. ไอ แอม เคอร์เรนท์ลี่ ลิฟวิง อิน แอน อพาร์ทเมนต์ (ตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์)

📌 การเรียนและการทำงาน (Education & Work)

  1. I studied business management at university.ไอ สตัดดิด บิสเนส แมนเนจเมนท์ แอท ยูนิเวอร์ซิถิ  (ฉันเรียนสาขาการจัดการธุรกิจที่มหาวิทยาลัย)

  2. I graduated from Chulalongkorn University.ไอ แกรดจูเอทเต็ด ฟรอม จุฬาลงกรณ์ ยูนิเวอร์ซิตถิ (ฉันจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

  3. I am currently working as a graphic designer.ไอ แอม เคอร์เรนท์ลิ เวิร์คกิ้ง แอส อะ กราฟิก ดีไซเนอร์ (ตอนนี้ฉันทำงานเป็นนักออกแบบกราฟิก)

  4. I have been working for this company for five years.ไอ แฮฟ บีน เวิร์คกิ้ง ฟอร์ ดิส คัมพานี ฟอร์ ไฟว์ เยียร์ส (ฉันทำงานที่บริษัทนี้มา 5 ปีแล้ว)

  5. I love my job because I get to be creative.ไอ ลัฟ มาย จอบ บีคอส ไอ เก็ท ทู บี ครีเอทีฟ (ฉันรักงานของฉันเพราะฉันได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์)

  6. I am looking for new job opportunities.ไอ แอม ลุคกิ้ง ฟอร์ นิว จอบ ออพเพอร์ทูนิตี้ส์ (ฉันกำลังมองหาโอกาสงานใหม่ ๆ)

  7. I want to start my own business in the future.ไอ ว้อนท์ ทู สตาร์ท มาย โอว์น บิซเนส อิน เดอะ ฟิวเจอร์ (ฉันอยากเริ่มธุรกิจของตัวเองในอนาคต)

  8. I enjoy working with people.ไอ เอนจอย เวิร์คกิ้ง วิธ พีเพิล (ฉันสนุกกับการทำงานร่วมกับผู้คน)

  9. I am passionate about marketing and branding.ไอ แอม แพชเชินเนท อะเบาท์ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ แบรนดิ้ง (ฉันหลงใหลเกี่ยวกับการตลาดและการสร้างแบรนด์)

  10. My goal is to become a successful entrepreneur.มาย โกล อีส ทู บีคัม อะ ซัคเซสฟูล อองเทรอเพรอเนอร  (เป้าหมายของฉันคือการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ)



📌 ความสนใจและงานอดิเรก (Interests & Hobbies)

  1. I enjoy reading self-improvement books. ไอ เอนจอย รีดดิ้ง เซลฟ์-อิมพรูฟเมนท์ บุ๊คส์  (ฉันชอบอ่านหนังสือพัฒนาตนเอง)

  2. My favorite book is "Atomic Habits." มาย เฟเวอริต บุ๊ค อีส "อะทอมมิก แฮบิทส์"  (หนังสือเล่มโปรดของฉันคือ "Atomic Habits")

  3. I love traveling to new places. ไอ ลัฟ แทรเวลลิ่ง ทู นิว เพลสเซส (ฉันชอบเดินทางไปสถานที่ใหม่ ๆ)

  4. I have visited Japan, Korea, and France. ไอ แฮฟ วิสิทเต็ด เจแปน, โคเรีย, แอนด์ ฟรานซ์ (ฉันเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น เกาหลี และฝรั่งเศส)

  5. I am learning how to play the guitar.ไอ แอม เลิร์นนิ่ง ฮาว ทู เพลย์ เดอะ กีตาร์  (ฉันกำลังเรียนเล่นกีตาร์)

  6. Cooking is one of my favorite hobbies. คุกกิ้ง อีส วัน ออฟ มาย เฟเวอริต ฮ็อบบี้ส์  (การทำอาหารเป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่ฉันชอบ)

  7. I enjoy jogging in the park every morning. ไอ เอนจอย จ็อกกิ้ง อิน เดอะ พาร์ค เอะฟริ มอร์นิ่ง (ฉันชอบวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะทุกเช้า)

  8. I like taking photos of nature. ไอ ไลค์ เทคกิ้ง โฟโต้ส์ ออฟ เนเจอร์  (ฉันชอบถ่ายรูปธรรมชาติ)

  9. I watch English movies to improve my language skills. ไอ ว็อทช์ อิงลิช มูวี่ส์ ทู อิมพรูฟ มาย แลงกวิจ สกิลส์  (ฉันดูหนังภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะภาษา)

  10. I am interested in learning different cultures. ไอ แอม อินเทอเรสเต็ด อิน เลิร์นนิ่ง ดิฟเฟอเรนท์ คัลเชอร์ส (ฉันสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ)



💡 เคล็ดลับการฝึกพูด

  • ลอง พูดประโยคเหล่านี้ออกเสียง ทุกวัน
  • ฝึก แนะนำตัวเองหน้ากระจก หรือ อัดเสียงตัวเองฟัง
  • ใช้ประโยคเหล่านี้เวลา เจอเพื่อนใหม่หรือสัมภาษณ์งาน

✅พูดเกี่ยวกับตัวเอง หรือสิ่งที่ชอบ (Talking About Likes & Interests)

พูดเกี่ยวกับตัวเอง หรือสิ่งที่ชอบ

✅ ฝึกพูดเกี่ยวกับตัวเองในประโยคง่าย ๆ

  1. I like watching movies.ไอ ไลค์ ว็อทชิ่ง มูวี่ส์  (ฉันชอบดูหนัง)
  2. I love coffee.ไอ ลัฟ คอฟฟี่ (ฉันรักกาแฟ)
  3. I have a cat.ไอ แฮฟ อะ แคท (ฉันมีแมว)
  4. I enjoy listening to music.ไอ เอนจอย ลิสซึนนิ่ง ทู มิวสิค (ฉันชอบฟังเพลง)
  5. I work as a teacher.ไอ เวิร์ค แอส อะ ทีชเชอร์ (ฉันทำงานเป็นครู)


📌 ประโยคเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบ (Likes & Interests)

  1. I love listening to music. ไอ ลัฟ ลิสซึนนิ่ง ทู มิวสิค (ฉันชอบฟังเพลง)

  2. My favorite singer is Taylor Swift. มาย เฟเวอริต ซิงเงอร์ อีส เทย์เลอร์ สวิฟต์ (นักร้องที่ฉันชอบคือเทย์เลอร์ สวิฟต์)

  3. I enjoy watching movies in my free time.ไอ เอนจอย ว็อทชิ่ง มูวี่ส์ อิน มาย ฟรี ไทม์ (ฉันชอบดูหนังเวลาว่าง)

  4. My favorite movie is "Inception". มาย เฟเวอริต มูวี่ อีส "อินเซพชั่น" (หนังเรื่องโปรดของฉันคือ "Inception")

  5. I like reading books, especially novels.ไอ ไลค์ รีดดิ้ง บุ๊คส์, เอสเพเชียลลี่ นอเวลส์ (ฉันชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะนิยาย)

  6. I love cooking new recipes. ไอ ลัฟ คุกกิ้ง นิว เรเซพีส์ (ฉันชอบทำอาหารสูตรใหม่ ๆ)

  7. I really enjoy traveling to different places. ไอ เรียลลี่ เอนจอย แทรเวลลิ่ง ทู ดิฟเฟอเรนท์ เพลสเซส (ฉันสนุกกับการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ)

  8. My dream is to travel around the world. มาย ดรีม อีส ทู แทรเวล อะราวด์ เดอะ เวิลด์ (ความฝันของฉันคือการเดินทางรอบโลก)

  9. I’m a big fan of football. ไอม์ อะ บิ๊ก แฟน ออฟ ฟุตบอล (ฉันเป็นแฟนตัวยงของฟุตบอล)

  10. I love taking photos of nature.ไอ ลัฟ เทคกิ้ง โฟโต้ส ออฟ เนเจอร์ (ฉันชอบถ่ายรูปธรรมชาติ)



📌 พูดเกี่ยวกับตัวเอง (Talking About Yourself)

  1. My name is Anna, and I am 25 years old. มาย เนม อีส แอนนา, แอนด์ ไอ แอม ทเวนถิไฟว์ เยียร์ส โอลด์ (ฉันชื่อแอนนา และฉันอายุ 25 ปี)

  2. I was born and raised in Thailand. ไอ วอส บอร์น แอนด์ เรซด์ อิน ไทยแลนด์ (ฉันเกิดและเติบโตในประเทศไทย)

  3. I am a friendly and optimistic person.ไอ แอม อะ เฟรนด์ลี่ แอนด์ ออพทิมิสติก เพอร์ซัน (ฉันเป็นคนเฟรนด์ลี่และมองโลกในแง่ดี)

  4. I have two siblings, an older brother and a younger sister. ไอ แฮฟ ทู ซิบลิงส์, แอน โอลเดอร์ บราเธอร์ แอนด์ อะ ยังเกอร์ ซิสเตอร์ (ฉันมีพี่ชายหนึ่งคนและน้องสาวหนึ่งคน)

  5. I live in Bangkok with my family. ไอ ลิฟ อิน แบงคอก วิธ มาย แฟมิหลิ (ฉันอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ กับครอบครัว)

  6. I work as a graphic designer. ไอ เวิร์ค แอส อะ กราฟิก ดีไซเนอร์ (ฉันทำงานเป็นกราฟิกดีไซเนอร์)

  7. I love meeting new people and making new friends. ไอ ลัฟ มีทติ้ง นิว พีเพิล แอนด์ เมคกิ้ง นิว เฟรนส์ (ฉันชอบพบปะผู้คนใหม่ ๆ และหาเพื่อนใหม่)

  8. I am always eager to learn new things. ไอ แอม ออลเวย์ส อีเกอร ทู เลิร์น นิว ธิงส์ (ฉันกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ)

  9. I enjoy helping others whenever I can. ไอ เอนจอย เฮลปปิ้ง อัทเธอร์ส เว็นเอฟเวอร์ ไอ แคน (ฉันชอบช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อทำได้)

  10. I believe that hard work leads to success. ไอ บีลีฟ แดท ฮาร์ด เวิร์ค ลีดส์ ทู ซัคเซส (ฉันเชื่อว่าการทำงานหนักนำไปสู่ความสำเร็จ)



📌 พูดเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบ (Talking About Likes & Interests)

  1. I love listening to music in my free time.ไอ ลัฟ ลิสซึนนิ่ง ทู มิวสิค อิน มาย ฟรี ไทม์ (ฉันชอบฟังเพลงเวลาว่าง)

  2. My favorite hobby is painting. มาย เฟเวอริต ฮ็อบบี้ อีส เพนท์ติ้ง (งานอดิเรกที่ฉันชอบคือการวาดภาพ)

  3. I enjoy reading books, especially mystery novels.ไอ เอนจอย รีดดิ้ง บุ๊คส์, เอสเพเชียลลี่ มิสเตอรี่ นอเวลส์ (ฉันสนุกกับการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะนิยายแนวสืบสวน)

  4. I am passionate about photography.ไอ แอม แพชเชินเนท อะเบาท์ โฟโทกราฟฟี่ (ฉันมีความหลงใหลในเรื่องการถ่ายภาพ)

  5. Cooking is one of my favorite activities.คุกกิ้ง อีส วัน ออฟ มาย เฟเวอริต แอคทิวิตีส์ (การทำอาหารเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ฉันชอบ)

  6. I really like watching movies, especially comedies.ไอ เรียลลี่ ไลค์ ว็อทชิ่ง มูวี่ส์, เอสเพเชียลลี่ คอเมดี้ส์ (ฉันชอบดูหนังมาก โดยเฉพาะแนวตลก)

  7. I am a big fan of football.ไอ แอม อะ บิ๊ก แฟน ออฟ ฟุตบอล (ฉันเป็นแฟนตัวยงของฟุตบอล)

  8. I enjoy traveling to new places.ไอ เอนจอย แทรเวลลิ่ง ทู นิว เพลสเซส  (ฉันสนุกกับการเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ ๆ)

  9. I like spending time with my family on weekends.ไอ ไลค์ สเปนดิ้ง ไทม์ วิธ มาย แฟมิลี่ ออน วีคเอนด์ส (ฉันชอบใช้เวลากับครอบครัวในช่วงสุดสัปดาห์)

  10. I love trying different types of food. ไอ ลัฟ ทรายอิ่ง ดิฟเฟอเรนท์ ไทพส์ ออฟ ฟู้ด (ฉันชอบลองอาหารหลากหลายประเภท)

📌 พูดเกี่ยวกับอาหารที่ชอบ (Talking About Favorite Food & Drinks)

  1. My favorite food is sushi.มาย เฟเวอริต ฟู้ด อีส ซูชิ (อาหารที่ฉันชอบที่สุดคือซูชิ)

  2. I love eating spicy food.ไอ ลัฟ อีทติ้ง สไปซี่ ฟู้ด (ฉันชอบกินอาหารเผ็ด)

  3. I enjoy cooking Italian dishes at home.ไอ เอนจอย คุกกิ้ง อิแทเลี่ยน ดิชเชส แอท โฮม (ฉันสนุกกับการทำอาหารอิตาเลียนที่บ้าน)

  4. I can’t start my day without a cup of coffee.ไอ แค้นท์ สตาร์ท มาย เดย์ วิธเอาท์ อะ คัพ ออฟ คอฟฟี่ (ฉันเริ่มต้นวันไม่ได้ถ้าไม่มีแก้วกาแฟ)

  5. I prefer tea over coffee.ไอ พรีเฟอร์ ที โอเวอร์ คอฟฟี่ (ฉันชอบชามากกว่ากาแฟ)

  6. I love desserts, especially chocolate cake.ไอ ลัฟ ดีเซิร์ทส์, เอสเพเชียลลี่ ช็อกโกแลต เค้ก (ฉันชอบของหวาน โดยเฉพาะเค้กช็อกโกแลต)

  7. I like trying street food when I travel.ไอ ไลค์ ทรายอิ่ง สตรีท ฟู้ด เว็น ไอ แทรเวล (ฉันชอบลองอาหารริมทางเวลาเดินทาง)

  8. I enjoy drinking fresh fruit juice.ไอ เอนจอย ดริ๊งคิง เฟรช ฟรุ๊ท จูซ (ฉันชอบดื่มน้ำผลไม้สด)

  9. I always eat breakfast before going to work.ไอ ออลเวย์ส อีท เบรกฟัสต์ บีฟอร์ โกอิ้ง ทู เวิร์ค (ฉันกินอาหารเช้าก่อนไปทำงานเสมอ)

  10. I am not a fan of fast food. ไอ แอม น็อท อะ แฟน ออฟ ฟาสต์ ฟู้ด (ฉันไม่ค่อยชอบอาหารฟาสต์ฟู้ด)

📌 พูดเกี่ยวกับกีฬาและกิจกรรมที่ชอบ (Talking About Sports & Activities)

  1. I love playing badminton with my friends.ไอ ลัฟ เพลยิ่ง แบดมินตัน วิธ มาย เฟรนด์ส (ฉันชอบเล่นแบดมินตันกับเพื่อน)

  2. I go to the gym three times a week.ไอ โก ทู เดอะ ยิม ธรี ไทม์ส อะ วีค (ฉันไปยิมสามครั้งต่อสัปดาห์)

  3. Jogging in the morning makes me feel refreshed.จ็อกกิ้ง อิน เดอะ มอร์นิ่ง เมคส มี ฟีล รีเฟรชท์ (การวิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้าทำให้ฉันรู้สึกสดชื่น)

  4. I enjoy swimming in the summer.ไอ เอนจอย สวิมมิ่ง อิน เดอะ ซัมเมอร์ (ฉันสนุกกับการว่ายน้ำในช่วงฤดูร้อน)

  5. I am learning how to play tennis.ไอ แอม เลิร์นนิ่ง ฮาว ทู เพลย์ เทนนิส (ฉันกำลังเรียนรู้วิธีเล่นเทนนิส)

  6. I like doing yoga to relax my mind.ไอ ไลค์ ดูอิ่ง โยคะ ทู รีแล็กซ์ มาย มายด์ (ฉันชอบเล่นโยคะเพื่อผ่อนคลายจิตใจ)

  7. I am a huge basketball fan.ไอ แอม อะ ฮิวจ์ บาสเกตบอล แฟน (ฉันเป็นแฟนบาสเกตบอลตัวยง)

  8. Hiking is one of my favorite outdoor activities.ไฮกิ้ง อีส วัน ออฟ มาย เฟเวอริต เอ้าท์ดอร์ แอคทิวิตีส์ (การเดินป่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมกลางแจ้งที่ฉันชอบ)

  9. I like cycling in the park on weekends. ไอ ไลค์ ไซคลิง อิน เดอะ พาร์ค ออน วีคเอนด์ส(ฉันชอบปั่นจักรยานในสวนสาธารณะช่วงสุดสัปดาห์)

  10. Dancing makes me feel happy and energetic.แดนซิ่ง เมคส มี ฟีล แฮปปี้ แอนด์ เอนเนอร์เจติก (การเต้นทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขและมีพลัง)

📌 พูดเกี่ยวกับความฝันและเป้าหมาย (Talking About Dreams & Goals)

  1. I dream of traveling around the world.ไอ ดรีม ออฟ แทรเวลลิ่ง อะราวด์ เดอะ เวิลด์ (ฉันฝันที่จะเดินทางรอบโลก)

  2. I want to be fluent in English.ไอ ว้อนท์ ทู บี ฟลูเอ็นท์ อิน อิงลิช (ฉันต้องการพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว)

  3. One day, I hope to start my own business.วัน เดย์, ไอ โฮป ทู สตาร์ท มาย โอว์น บิซเนส (วันหนึ่ง ฉันหวังว่าจะได้เริ่มธุรกิจของตัวเอง)

  4. I want to buy a house for my parents.ไอ ว้อนท์ ทู บาย อะ เฮาส์ ฟอร์ มาย พาเรนท์ส (ฉันต้องการซื้อบ้านให้พ่อแม่)

  5. My goal is to become a successful entrepreneur. มาย โกล อีส ทู บีคัม อะ ซัคเซสฟูล อองเทรอเพรอเนอร (เป้าหมายของฉันคือการเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ)

  6. I would love to write a book someday.ไอ วู้ด ลัฟ ทู ไรท์ อะ บุ๊ค ซัมเดย์ (ฉันอยากเขียนหนังสือสักเล่มในสักวันหนึ่ง)

  7. I am working hard to achieve my dreams.ไอ แอม เวิร์คกิ้ง ฮาร์ด ทู อะชีฟ มาย ดรีมส์ (ฉันกำลังทำงานหนักเพื่อให้บรรลุความฝัน)

  8. I hope to make a positive impact on society.ไอ โฮป ทู เมค อะ พอซิทีฟ อิมแพคท์ ออน โซไซอิตี้ (ฉันหวังว่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม)

  9. I want to continue learning and growing every day.ไอ ว้อนท์ ทู คอนทินิว เลิร์นนิ่ง แอนด์ โกรวอิ่ง เอฟวรี่ เดย์ (ฉันต้องการเรียนรู้และเติบโตในทุก ๆ วัน)

  10. I believe that anything is possible with determination.ไอ บีลีฟ แดท เอนนี่ธิง อีส พอซซิเบิล วิธ ดีเทอร์มิเนชั่น (ฉันเชื่อว่าอะไรก็เป็นไปได้ถ้ามีความมุ่งมั่น)

📌 พูดเกี่ยวกับสิ่งที่อยากลองทำ (Talking About Things You Want to Try)

  1. I would love to try skydiving one day.ไอ วู้ด ลัฟ ทู ทราย สกายไดฟวิ่ง วัน เดย์ (ฉันอยากลองกระโดดร่มสักวันหนึ่ง)

  2. I have always wanted to learn how to play the piano.ไอ แฮฟว์ ออลเวย์ส ว้อนท์เท็ด ทู เลิร์น ฮาว ทู เพลย์ เดอะ เปียโน (ฉันอยากเรียนรู้วิธีเล่นเปียโนมาตลอด)

  3. I want to experience living in another country.ไอ ว้อนท์ ทู เอ็กซพีเรียนซ์ ลีฟวิ่ง อิน อะนัธเธอร์ คันทรี่ (ฉันต้องการประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ)

  4. Trying different cuisines is on my bucket list.ทรายอิ่ง ดิฟเฟอเรนท์ ควิซีนส์ อีส ออน มาย บัคเก็ต ลิสต์ (การลองอาหารต่าง ๆ อยู่ในรายการสิ่งที่ต้องทำก่อนตายของฉัน)

  5. I hope to learn how to surf someday.ไอ โฮป ทู เลิร์น ฮาว ทู เซิร์ฟ ซัมเดย์ (ฉันหวังว่าจะได้เรียนรู้วิธีโต้คลื่นสักวันหนึ่ง)

  6. I want to volunteer and help those in need.ไอ ว้อนท์ ทู วอลันเทียร์ แอนด์ เฮลป์ โธส อิน นีด (ฉันต้องการอาสาสมัครและช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ)

  7. I am curious about learning a new language.ไอ แอม เคอเรียส อะเบาท์ เลิร์นนิ่ง อะ นิว แลงกวิจ (ฉันอยากเรียนรู้ภาษาใหม่)

  8. I would love to try acting in a play. ไอ วู้ด ลัฟ ทู ทราย แอ็คติ้ง อิน อะ เพลย์ (ฉันอยากลองแสดงละคร)

  9. I want to explore the deep sea through scuba diving. ไอ ว้อนท์ ทู เอ็กซพลอร์ เดอะ ดีพ ซี ธรู สคูบา ไดฟวิ่ง  (ฉันต้องการสำรวจทะเลลึกผ่านการดำน้ำลึก)

  10. I dream of seeing the Northern Lights in person. ไอ ดรีม ออฟ ซีอิ่ง เดอะ นอร์เธิร์น ไลท์ส อิน เพอร์ซัน (ฉันฝันถึงการเห็นแสงเหนือด้วยตาตนเอง)

    ✅หวังว่านี่จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่ผ่านเข้ามาอ่านนะจ๊ะ



💡ฝึกภาษาอังกฤษเริ่มต้นง่าย ๆ ✅


📌 ประโยคทักทายและแนะนำตัว

  1. Hello! How are you?  เฮลโล! ฮาว อาร์ ยู? (สวัสดี! สบายดีไหม?)

  2. Hi! My name is Anna. What's your name? ไฮ! มาย เนม อีส แอนนา. ว็อทส์ ยัวร์ เนม?  (สวัสดี! ฉันชื่อแอนนา คุณชื่ออะไร?)

  3. Nice to meet you! ไนซ์ ทู มีท ยู! (ยินดีที่ได้รู้จัก!)

  4. Where are you from? แวร์ อาร์ ยู ฟรอม? (คุณมาจากที่ไหน?)

  5. I'm from Thailand. And you?  ไอม์ ฟรอม ไทยแลนด์. แอนด์ ยู?  (ฉันมาจากประเทศไทย แล้วคุณล่ะ?)



📌 ประโยคใช้ในชีวิตประจำวัน

  1. How’s your day going? ฮาวส์ ยัวร์ เดย์ โกอิ้ง? (วันนี้คุณเป็นยังไงบ้าง?)

  2. What do you do for a living? ว็อท ดู ยู ดู ฟอร์ อะ ลิฟวิ่ง? (คุณทำงานอะไร?)

  3. I work as a teacher. ไอ เวิร์ค แอส อะ ทีชเชอร์ (ฉันทำงานเป็นครู)

  4. I’m a student. ไอม์ อะ สตู้เดนท์ (ฉันเป็นนักเรียน)

  5. I love traveling. ไอ ลัฟ แทรเวลลิ่ง (ฉันชอบท่องเที่ยว)



📌 ประโยคใช้ในการเดินทาง

  1. Where is the nearest bus stop? แวร์ อิส เดอะ เนียเรสท์ บัส สต็อป? (ป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน?)

  2. How much is a ticket to Bangkok? ฮาว มัช อิส อะ ทิคเก็ต ทู แบงคอก? (ตั๋วไปกรุงเทพฯ ราคาเท่าไหร่?)

  3. What time does the train leave? ว็อท ไทม์ ดัส เดอะ เทรน ลีฟว์? (รถไฟออกกี่โมง?)

  4. Can you show me the way to the airport? แคน ยู โชว์ มี เดอะ เวย์ ทู ดิ แอร์พอร์ต? (คุณช่วยบอกทางไปสนามบินได้ไหม?)

  5. Is this seat taken? อิส ดิส ซีท เทคเคิน? (ที่นั่งนี้มีคนจองไหม?)



📌 ประโยคใช้ในการซื้อของ

  1. How much is this? ฮาว มัช อีส ดิส? (อันนี้ราคาเท่าไหร่?)

  2. Do you have this in a different color? ดู ยู แฮฟว์ ดิส อิน อะ ดิฟเฟอเรนท์ คัลเลอร์? (คุณมีอันนี้เป็นสีอื่นไหม?)

  3. Can I pay by credit card? แคน ไอ เพย์ บาย เครดิต คาร์ด? (ฉันจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ไหม?)

  4. I’m just looking, thank you.ไอม์ จัสท์ ลุคกิ้ง, แต๊งคิ่ว. (ฉันแค่ดูเฉย ๆ ขอบคุณ)

  5. Can I get a discount? แคน ไอ เก็ท อะ ดิสเคานท์? (ฉันขอลดราคาได้ไหม?)



📌 ประโยคใช้ในร้านอาหาร

  1. Can I have the menu, please? แคน ไอ แฮฟว์ เดอะ เมนู, พลีส? (ขอเมนูหน่อยได้ไหม?)

  2. I’d like a cup of coffee, please.ไอ ด ไลค์ อะ คัพ ออฟ คอฟฟี่, พลีส. (ฉันขอกาแฟหนึ่งถ้วยค่ะ/ครับ)

  3. Do you have any vegetarian options? ดู ยู แฮฟว์ เอนี่ เวเจเทรียน ออพชั่นส์? (คุณมีเมนูมังสวิรัติไหม?)

  4. Can I have the bill, please? แคน ไอ แฮฟว์ เดอะ บิล, พลีส? (ขอเช็คบิลหน่อยได้ไหม?)

  5. That was delicious! แดท วอส ดิลิเชียส!  (อาหารอร่อยมาก!)



📌 ประโยคขอความช่วยเหลือ & แสดงความรู้สึก

  1. Can you help me, please? แคน ยู เฮลพ มี, พลีส? (ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?)

  2. I don’t understand. ไอ โด้นท์ อันเดอร์สแตนด์. (ฉันไม่เข้าใจ)

  3. Can you speak more slowly, please? แคน ยู สปีค มอร์ สโลลิ, พลีส? (คุณช่วยพูดช้าลงหน่อยได้ไหม?)

  4. I’m lost. Can you help me? ไอม ลอสต. แคน ยู เฮลพ มี? (ฉันหลงทาง คุณช่วยฉันได้ไหม?)

  5. I had a great time today! ไอ แฮด อะ เกรท ไทม์ ทูเดย์! (วันนี้ฉันสนุกมาก!)



💡 เคล็ดลับ
✅ ลอง พูดออกเสียง ประโยคเหล่านี้บ่อย ๆ
✅ ใช้กับ เพื่อน คนรู้จัก หรือฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก
✅ ถ้าเจอคำศัพท์ใหม่ ๆ จดไว้แล้วใช้บ่อย ๆ จะช่วยให้จำได้เร็วขึ้น