ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2564

10 การออกเดทและเรื่องรักใคร่

 10 การออกเดทและเรื่องรักใคร่  การทำความรู้จัก

1. Can I buy you a drink? ฉันเลี้ยงน้ำคุณแก้วหนึ่งนะ

2. Would you like a drink? อยากดื่มอะไรสักแก้วไหม

3. Can I get you a drink? เอาเครื่องดื่มอะไรสักแก้วไหม

4. Are you on your own? มาคนเดียวหรือ

5. Would you like to join us? คุณอยากร่วมสนุกกับพวกเราไหม

6. Do you mind if I join you? จะว่าอะไรไหมหากฉันร่วมสนุกกับคุณ

7. Do you mind if we join you? จะว่าอะไรไหมหากเราร่วมสนุกกับคุณ

8. Do you come here often? คุณมาที่นี่บ่อยไหม

9. Is this your first time here? คุณมาที่นี่ครั้งแรกหรือเปล่า

10. Have you been here before? คุณเคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้ไหม




10 ประโยคชวนออกเดท

 10 ประโยคชวนออกเดท 

1. Are you free tomorrow? พรุ่งนี้ว่างมั้ยอะ?

2. Can we meet on the 3rd? เรามาเจอกันวันที่ 3 ได้มั้ย?

3. Are you free tonight? คืนนี้พอจะว่างมั้ย?

4. Wanna grab something to eat?อยากไปหาอะไรทานกันมั้ย?

5. How about you and me go out tonight? จะว่าไงถ้าเธอกับชั้นไปข้างนอกกันคืนนี้

6. Are you free tomorrow? พรุ่งนี้ว่างมั้ยจ๊ะ?

7. Do you want to go to the movies with me? อยากจะไปดูหนังกับชั้นมั้ย?

8. What about the 2nd of next month ? Would it suit you?วันที่ 2 เดือนหน้าเป็นไง เธอสะดวกมั้ย

9. Is next Saturday convenient for you? วันเสาร์หน้าเธอสะดวกมั้ยอ่ะ?

10. Can we meet sometime next day? ไว้นัดเจอกันนะ?



วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564

10 ประโยคที่ฝรั่งมักจะพูดเวลาโกรธ

 วันนี้เราจะมาเรียนรู้ประโยคที่ฝรั่งเขาจะพูดบ่อย ๆ เวลาโกรธนะคะ 10 ประโยคโกรธ โกร๊ธ โกรธ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

 10 ประโยควันนี้เป็นประโยคที่เราจะใช้พูดเวลาโกรธ


1. It’s none of your business. ไม่ใช่เรื่องของคุณ

        ตัวอย่างเช่น แอนทะเลาะกับแม่มา แต่ว่าแอนไม่อยากบอกรายละเอียดกับใคร แต่เชอรี่เดินมาถาม

        Cherry : What's going on, Ann? เกิดอะไรขึ้นแอน

        Ann : It's none of your business. ไม่ใช่เรื่องของคุณ 

2. Leave me alone. อย่ามายุ่งกับฉัน, ฉันอยากอยู่คนเดียว

       แอนทะเลาะกับพี่สาวแล้วแอนก็แอบมานั่งคนเดียวในห้องอาหารแม่เลยเดินเข้าไปถาม

        Mom : Ann... แอน....

        Ann  : Leave me alone. อย่ามายุ่งกับฉัน 

จากเหตุการณ์นี้แม่ในแบบผู้เขียนคงจะงง ฉันแค่เรียกชื่อเอง ....        

3. Whatever! (I don't care) จะทำอะไรก็ทำเถอะ (แต่ฉันไม่ทำ) เออยังไงก็ได้ 

        Mom : Ann you have to clean your room. แอนเธอต้องทำความสะอาดห้องเธอนะ

        Ann : Whatever! จะทำอะไรก็ทำ (แต่ฉันไม่ทำ)

4. Shut up! หุบปาก ** ประโยคนี้ต้องระวังเป็นอย่างมากนะคะเนื่องจากคำนี้ไม่สุภาพนะจ๊ะ โกรธเจ้านายแล้วพูดคำนี้กับเจ้านายอาจจะถูกเตะออกมาเลยนะคะ 555

5. Are you kidding me? คุณล้อฉันเล่นใช่มั้ย ประโยคนี้ก็สามารถใช้ตอนโกรธได้นะคะแบบเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ทำให้โกรธแล้วเราก็ถามแบบล้อเล่นป่ะนี่ ประโยคนี้ความหมายเหมือน are joking with me? / are you joking? เลยนะคะ

    ตัวอย่างเช่นแอนกำลังเดินไปที่ทำงานแล้วระหว่างทางบังเอิญแอนเจอแดนซึ่งเป็นแฟนตัวเองเดินกับผู้หญิงกระหนุงกระหนิงเลยแหละเดาได้เลยมันต้องเดทกับผู้หญิงคนนั้นแหละแอนจึงเดินเข้าไปหาแฟน

        Ann : Are you kidding me?  คุณล้อเล่นใช่มั้ย

        Dan : I can explain... ฉันอธิบายได้ (คาดเดาว่าน่าจะโดนดับเบิลฝ่ามือพิฆาตไปแล้วเรียบร้อย.... เอาตัวเองเป็นไม้บรรทัดสุด ๆ 55

6. Cut it out. หยุดได้แล้ว, พอได้แล้ว คำนี้หมายความว่า Stop it. / Stop now. เช่นคุณอาจจะมีลูก หรือ เด็กเล็ก ๆ ที่บ้านแล้วน้องก็กำลังเล่นกับแมวอยู่ไม่ยอมเข้านอนคุณก็จะบอกว่า

    Cut it out and go to bed.

7. I’m upset. ฉันเสียใจ

8. Who do you think you are? คุณคิดว่าคุณเป็นใคร

9. Watch your mouth. ระวังปากหน่อย, ระวังคำพูดหน่อย ประโยคนี้ฝรั่งจะใช้ปรามเด็กที่พูดคำแรง ๆ บ่อย ๆ นะคะ 

        Watch you mouth son!

10. You’re not listening to me. คุณไม่ฟังฉันเลย




✅15 คำถามภาษาอังกฤษและคำตอบสายฝรั่งที่ควรรู้✅

 วันนี้จะมาเสนอคำถามภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย พร้อมกับคำตอบแบสาย ฝ๊อ สาย ฝ. วันนี้ใจดีให้ไป 15 คำถามเลยค่ะ ไปดูกันว่าฝรั่งเขาตอบกันยังไง 

1. Do you like Thai food? คุณชอบอาหารไทยมั้ยคะ

Yes. / No.  ชอบ / ไม่ชอบ

Yes! I love padthai !  ชอบสิ ผมชอบผัดไทมาก

I don’t know! What do you recommend? ไม่รู้สิ คุณแนะนำอะไรล่ะ

2. Have you been to Japan? คุณเคยไปญี่ปุ่นมั้ย

      Yes I have. / No I haven’t. เคยไปครับ / ไม่เคยไปครับ

No I haven’t yet. But I want to. ยังไม่เคยไป แต่อยากไปนะ

3. How are you? คุณสบายดีไหม คำถามนี่เป็นคำถามยอดฮิตและที่โรงเรียนสอนมาเป็นสเต็ปเลยพอเจอ how are you? คำตอบลอยมาเลย I'm fine, thank you. ไม่เอาแล้วนะคะ อ่านบทความนี้จบเอาคำตอบอื่นไปใช้บ้างเพื่อที่จะได้ช่วยพัฒนาภาษาของเราให้ดีขึ้นนะคะ

  How are you?

Good. / Great. สบายดี

I’m good how are you?     ผมสบายดี คุณล่ะ

4. How long have you been studying English? คุณเรียนภาษาอังกฤษมานานแค่ไหนแล้วครับ

I have been studying English for ........ผมเรียนภาษาอังกฤษมา...(ระยะเวลา ตย. 5วัน , 3 เดือน, 1ปี)

                        I have been studying English for 5 days.

                        I have been studying English for 3 months.

                        I have been studying English for 1 year.

5. How old are you?คุณอายุเท่าไหร่  มาถึงคำถามที่ 5 คำถามนี้สำคัญมากเราควรใช้อย่างระมัดระวังนะคะ เนื่องจากว่าเราไม่ควรเอาไปใช้ถามใครก็ได้สุ่มสี่สุ่มห้าเพราะมันจะดูไม่สุภาพทันทีเลยค่ะ เว้นแต่ว่าเมื่อคุณเจอกันแล้วสองสามครั้ง หรือ คน ๆ อายุไล่เลี่ยกับคุณ ๆ สามารถถามเขาได้ค่ะ

    How old are you?

I’m 15. ผมอายุ 15

I’m 30 years old. ผมอายุ 30 ปี

6. What did you say? / Sorry, what did you just say? คุณพูดอะไรนะ / ขอโทษครับคุณพูดว่่าอะไรนะ

    คำถามนี้ใช้เมื่อคู่สนทนาของเราพูดแล้วเราไม่ได้ยิน หรือได้ยินไม่ถนัดนะคะเราก็จะถามเขาว่า

     Sorry, What did you say?

    Sorry, What did you just say?

ซึ่งการถามแบบนี้มันจะสุภาพกว่าเราหันกลับไปถามเขาว่า What? นะคะ

   

7. What is your name?คุณชื่ออะไร

John.จอห์น

I’m John.ผมชื่อจอห์น

My name’s John.ผมชื่อจอห์น

8. What’s your phone number?เบอร์โทรศัพท์คุณเบอร์อะไร

It’s xxx-xxxx-xxxx.เบอร์ xxx-xxxx-xxxx

My phone number is xxx-xxxx-xxxx.เบอร์ฉันคือ xxx-xxxx-xxxx

9. When is your birthday? วันเกิดคุณเมื่อไหร่

January 15th.วันที่ 15 มกราคมครับ

  My birthday is January 15th.   วันเกิดผมวันที่ 15 มกราคมครับ 

อันนี้ถ้ามีเพื่อน หรือ มีคนกำลังมีแผนจะจัดงานวันเกิด เช่นเพื่อนร่วมงานของเรา ๆ ก็สามารถถามเขาได้นะคะ

10. Where are you from? คุณมาจากไหน

I’m from..........ฉันมาจาก.... 

I’m from Japan.ฉันมาจากญี่ปุ่น

I’m from Bangkok, Thailand. ฉันมาจากกรุงเทพ ประเทศไทย

คำถามนี้ปกติถ้าเราถามต่างชาติ เราก็จะหมายถึงว่าเขามาจากประเทศไหน หรือ ถามถึงเมือง แต่ส่วนใหญ่ก็จะถามประเทศเสียเป็นส่วนมาก

11. Where did you learn English? คุณเรียนภาษาอังกฤษจากที่ไหน

I learned English online.ฉันเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

I learned English at University.ฉันเรียนภาษาอังกฤษที่มหาลัย

I learned English from my friend.ฉันเรียนภาษาอังกฤษจากเพื่อน

12. Where do you live? คุณอยู่ที่ไหน (อาศัยอยู่ที่ไหน)

                        I live (Place).

I live in Thailand. ฉันอาศัยอยู่ประเทศไทย

I live in Bangkok.ฉันอาศัยอยู่กรุงเทพ

13. Where do you work? คุณทำงานที่ไหน

I work at ABC company.ฉันทำงานที่บริษัท เอ บี ซี

I work for ABC company. ฉันทำงานกับบริษัท เอ บี ซี

14. What is this? นี่คืออะไร

It’s............... มันคือ......

ตัวอย่างสถานการณ์สำหรับคำถามนี้ เช่นเรากำลังจะรับประทานอาหารแล้วบนโต๊ะอาหารมีเมนูแปลกใหม่สำหรับเรา ๆ ก็จะถามว่า

What is this? นี่คืออะไรคะ

It's philly cheese steak. มันคือ สเต๊กชีสฟีลลี่


15. Where is the toilet? ห้องน้ำอยู่ที่ไหน

คำถามนี้ถ้าเป็นคนอเมริกันเขาก็จะถามอีกแบบนะคะคือ

Where is the restroom?

Where is the bath room?