ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564

10 ประโยคที่ฝรั่งมักจะพูดเวลาโกรธ

 วันนี้เราจะมาเรียนรู้ประโยคที่ฝรั่งเขาจะพูดบ่อย ๆ เวลาโกรธนะคะ 10 ประโยคโกรธ โกร๊ธ โกรธ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

 10 ประโยควันนี้เป็นประโยคที่เราจะใช้พูดเวลาโกรธ


1. It’s none of your business. ไม่ใช่เรื่องของคุณ

        ตัวอย่างเช่น แอนทะเลาะกับแม่มา แต่ว่าแอนไม่อยากบอกรายละเอียดกับใคร แต่เชอรี่เดินมาถาม

        Cherry : What's going on, Ann? เกิดอะไรขึ้นแอน

        Ann : It's none of your business. ไม่ใช่เรื่องของคุณ 

2. Leave me alone. อย่ามายุ่งกับฉัน, ฉันอยากอยู่คนเดียว

       แอนทะเลาะกับพี่สาวแล้วแอนก็แอบมานั่งคนเดียวในห้องอาหารแม่เลยเดินเข้าไปถาม

        Mom : Ann... แอน....

        Ann  : Leave me alone. อย่ามายุ่งกับฉัน 

จากเหตุการณ์นี้แม่ในแบบผู้เขียนคงจะงง ฉันแค่เรียกชื่อเอง ....        

3. Whatever! (I don't care) จะทำอะไรก็ทำเถอะ (แต่ฉันไม่ทำ) เออยังไงก็ได้ 

        Mom : Ann you have to clean your room. แอนเธอต้องทำความสะอาดห้องเธอนะ

        Ann : Whatever! จะทำอะไรก็ทำ (แต่ฉันไม่ทำ)

4. Shut up! หุบปาก ** ประโยคนี้ต้องระวังเป็นอย่างมากนะคะเนื่องจากคำนี้ไม่สุภาพนะจ๊ะ โกรธเจ้านายแล้วพูดคำนี้กับเจ้านายอาจจะถูกเตะออกมาเลยนะคะ 555

5. Are you kidding me? คุณล้อฉันเล่นใช่มั้ย ประโยคนี้ก็สามารถใช้ตอนโกรธได้นะคะแบบเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ทำให้โกรธแล้วเราก็ถามแบบล้อเล่นป่ะนี่ ประโยคนี้ความหมายเหมือน are joking with me? / are you joking? เลยนะคะ

    ตัวอย่างเช่นแอนกำลังเดินไปที่ทำงานแล้วระหว่างทางบังเอิญแอนเจอแดนซึ่งเป็นแฟนตัวเองเดินกับผู้หญิงกระหนุงกระหนิงเลยแหละเดาได้เลยมันต้องเดทกับผู้หญิงคนนั้นแหละแอนจึงเดินเข้าไปหาแฟน

        Ann : Are you kidding me?  คุณล้อเล่นใช่มั้ย

        Dan : I can explain... ฉันอธิบายได้ (คาดเดาว่าน่าจะโดนดับเบิลฝ่ามือพิฆาตไปแล้วเรียบร้อย.... เอาตัวเองเป็นไม้บรรทัดสุด ๆ 55

6. Cut it out. หยุดได้แล้ว, พอได้แล้ว คำนี้หมายความว่า Stop it. / Stop now. เช่นคุณอาจจะมีลูก หรือ เด็กเล็ก ๆ ที่บ้านแล้วน้องก็กำลังเล่นกับแมวอยู่ไม่ยอมเข้านอนคุณก็จะบอกว่า

    Cut it out and go to bed.

7. I’m upset. ฉันเสียใจ

8. Who do you think you are? คุณคิดว่าคุณเป็นใคร

9. Watch your mouth. ระวังปากหน่อย, ระวังคำพูดหน่อย ประโยคนี้ฝรั่งจะใช้ปรามเด็กที่พูดคำแรง ๆ บ่อย ๆ นะคะ 

        Watch you mouth son!

10. You’re not listening to me. คุณไม่ฟังฉันเลย




✅15 คำถามภาษาอังกฤษและคำตอบสายฝรั่งที่ควรรู้✅

 วันนี้จะมาเสนอคำถามภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย พร้อมกับคำตอบแบสาย ฝ๊อ สาย ฝ. วันนี้ใจดีให้ไป 15 คำถามเลยค่ะ ไปดูกันว่าฝรั่งเขาตอบกันยังไง 

1. Do you like Thai food? คุณชอบอาหารไทยมั้ยคะ

Yes. / No.  ชอบ / ไม่ชอบ

Yes! I love padthai !  ชอบสิ ผมชอบผัดไทมาก

I don’t know! What do you recommend? ไม่รู้สิ คุณแนะนำอะไรล่ะ

2. Have you been to Japan? คุณเคยไปญี่ปุ่นมั้ย

      Yes I have. / No I haven’t. เคยไปครับ / ไม่เคยไปครับ

No I haven’t yet. But I want to. ยังไม่เคยไป แต่อยากไปนะ

3. How are you? คุณสบายดีไหม คำถามนี่เป็นคำถามยอดฮิตและที่โรงเรียนสอนมาเป็นสเต็ปเลยพอเจอ how are you? คำตอบลอยมาเลย I'm fine, thank you. ไม่เอาแล้วนะคะ อ่านบทความนี้จบเอาคำตอบอื่นไปใช้บ้างเพื่อที่จะได้ช่วยพัฒนาภาษาของเราให้ดีขึ้นนะคะ

  How are you?

Good. / Great. สบายดี

I’m good how are you?     ผมสบายดี คุณล่ะ

4. How long have you been studying English? คุณเรียนภาษาอังกฤษมานานแค่ไหนแล้วครับ

I have been studying English for ........ผมเรียนภาษาอังกฤษมา...(ระยะเวลา ตย. 5วัน , 3 เดือน, 1ปี)

                        I have been studying English for 5 days.

                        I have been studying English for 3 months.

                        I have been studying English for 1 year.

5. How old are you?คุณอายุเท่าไหร่  มาถึงคำถามที่ 5 คำถามนี้สำคัญมากเราควรใช้อย่างระมัดระวังนะคะ เนื่องจากว่าเราไม่ควรเอาไปใช้ถามใครก็ได้สุ่มสี่สุ่มห้าเพราะมันจะดูไม่สุภาพทันทีเลยค่ะ เว้นแต่ว่าเมื่อคุณเจอกันแล้วสองสามครั้ง หรือ คน ๆ อายุไล่เลี่ยกับคุณ ๆ สามารถถามเขาได้ค่ะ

    How old are you?

I’m 15. ผมอายุ 15

I’m 30 years old. ผมอายุ 30 ปี

6. What did you say? / Sorry, what did you just say? คุณพูดอะไรนะ / ขอโทษครับคุณพูดว่่าอะไรนะ

    คำถามนี้ใช้เมื่อคู่สนทนาของเราพูดแล้วเราไม่ได้ยิน หรือได้ยินไม่ถนัดนะคะเราก็จะถามเขาว่า

     Sorry, What did you say?

    Sorry, What did you just say?

ซึ่งการถามแบบนี้มันจะสุภาพกว่าเราหันกลับไปถามเขาว่า What? นะคะ

   

7. What is your name?คุณชื่ออะไร

John.จอห์น

I’m John.ผมชื่อจอห์น

My name’s John.ผมชื่อจอห์น

8. What’s your phone number?เบอร์โทรศัพท์คุณเบอร์อะไร

It’s xxx-xxxx-xxxx.เบอร์ xxx-xxxx-xxxx

My phone number is xxx-xxxx-xxxx.เบอร์ฉันคือ xxx-xxxx-xxxx

9. When is your birthday? วันเกิดคุณเมื่อไหร่

January 15th.วันที่ 15 มกราคมครับ

  My birthday is January 15th.   วันเกิดผมวันที่ 15 มกราคมครับ 

อันนี้ถ้ามีเพื่อน หรือ มีคนกำลังมีแผนจะจัดงานวันเกิด เช่นเพื่อนร่วมงานของเรา ๆ ก็สามารถถามเขาได้นะคะ

10. Where are you from? คุณมาจากไหน

I’m from..........ฉันมาจาก.... 

I’m from Japan.ฉันมาจากญี่ปุ่น

I’m from Bangkok, Thailand. ฉันมาจากกรุงเทพ ประเทศไทย

คำถามนี้ปกติถ้าเราถามต่างชาติ เราก็จะหมายถึงว่าเขามาจากประเทศไหน หรือ ถามถึงเมือง แต่ส่วนใหญ่ก็จะถามประเทศเสียเป็นส่วนมาก

11. Where did you learn English? คุณเรียนภาษาอังกฤษจากที่ไหน

I learned English online.ฉันเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

I learned English at University.ฉันเรียนภาษาอังกฤษที่มหาลัย

I learned English from my friend.ฉันเรียนภาษาอังกฤษจากเพื่อน

12. Where do you live? คุณอยู่ที่ไหน (อาศัยอยู่ที่ไหน)

                        I live (Place).

I live in Thailand. ฉันอาศัยอยู่ประเทศไทย

I live in Bangkok.ฉันอาศัยอยู่กรุงเทพ

13. Where do you work? คุณทำงานที่ไหน

I work at ABC company.ฉันทำงานที่บริษัท เอ บี ซี

I work for ABC company. ฉันทำงานกับบริษัท เอ บี ซี

14. What is this? นี่คืออะไร

It’s............... มันคือ......

ตัวอย่างสถานการณ์สำหรับคำถามนี้ เช่นเรากำลังจะรับประทานอาหารแล้วบนโต๊ะอาหารมีเมนูแปลกใหม่สำหรับเรา ๆ ก็จะถามว่า

What is this? นี่คืออะไรคะ

It's philly cheese steak. มันคือ สเต๊กชีสฟีลลี่


15. Where is the toilet? ห้องน้ำอยู่ที่ไหน

คำถามนี้ถ้าเป็นคนอเมริกันเขาก็จะถามอีกแบบนะคะคือ

Where is the restroom?

Where is the bath room?